คลัง เตรียมลงดาบทุจริต “คนละครึ่ง” ตรวจพบระงับการจ่ายทั้งฝั่งร้านค้า-ประชาชน



  •  เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อได้เงินโดยไม่ต้องใช้จ่าย
  •  ขณะที่ยอดลงทะเบียนทะลุ 9.4 ล้านคน
  •  มียอดใช้จ่ายสะสม 704.5 ล้านบาท

นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้พบว่ามีพฤติกรรมโฆษณาชวนเชื่อในช่องทางออนไลน์ต่างๆ  ในลักษณะไม่มีการใช้จ่ายจริงตามเงื่อนไขโครงการ “คนละครึ่ง” ดังนั้นจึงขอย้ำเตือนว่าภาครัฐมีระบบการติดตามตรวจสอบพฤติกรรมหรือธุรกรรมที่ผิดปกติ รวมทั้งมีการตั้งคณะทำงานเพื่อดำเนินการในติดตามความเคลื่อนไหวเรื่องดังกล่าว

ทั้งนี้หากพบพฤติกรรมหรือธุรกรรมที่ผิดปกติ หรือมีการใช้จ่ายที่ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขโครงการ ภาครัฐจะดำเนินการระงับการจ่ายเงินทั้งฝั่งร้านค้าและประชาชนทันที โดยหากตรวจสอบพบว่าการใช้จ่ายผิดเงื่อนไขโครงการจริงจะต้องมีการดำเนินการตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดและกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป

“ขอให้ประชาชนและร้านค้าโปรดอย่าหลงเชื่อการเชิญชวนตามโฆษณาผ่านช่องทางต่าง ๆ ในการช่วยดำเนินการโดยไม่มีการใช้จ่ายจริงอย่างเด็ดขาด เพราะอาจตกเป็นเหยื่อในการสนับสนุนให้เกิดการกระทำความผิดซึ่งมีโทษตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องได้ ทั้งนี้ ภาครัฐมุ่งหวังให้โครงการคนละครึ่งสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ในการช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ประชาชน เพื่อช่วยให้ร้านค้ามีรายได้เพิ่มมากขึ้นได้จริง”

ขณะที่การลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุด มีประชาชนลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการกว่า 9.4 ล้านคน จากจำนวนสิทธิ์ทั้งหมด 10 ล้านคน  และมีร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการกว่า 380,000 ร้านค้า

ส่วน ณ วันที่ 26 ต.ค. 2563 มียอดการใช้จ่ายสะสม 704.5 ล้านบาท แบ่งเป็น เงินที่ประชาชนจ่าย 362.5 ล้านบาท และภาครัฐร่วมจ่ายอีก 342 ล้านบาท โดยมียอดใช้จ่ายเฉลี่ย 232 บาทต่อครั้ง ส่วนจังหวัดที่มีการใช้จ่ายมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สงขลา และนครศรีธรรมราช

“ค่าใช้จ่ายของประชาชนครึ่งหนึ่งที่ใช้จ่ายกับร้านค้านั้น ร้านค้าจะได้รับยอดรวมโอนเข้าบัญชีที่ลงทะเบียนทุกสิ้นวันในช่วง 02.00 น. – 6.00 น. ตามระบบชำระเงินของธนาคาร สำหรับส่วนที่ภาครัฐร่วมจ่ายอีกครึ่งหนึ่ง ร้านค้าจะได้รับในวันทำการถัดไป ในช่วง 17.30 – 19.00 น. โดยยอดการใช้จ่ายในช่วงวันหยุดภาครัฐจะโอนให้ทันทีในวันทำการถัดไป ส่วนในช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านมาระหว่างวันที่ 23 – 25 ต.ค.2563 ในส่วนที่ภาครัฐร่วมจ่าย จำนวน 212 ล้านบาท ภาครัฐได้โอนให้ร้านค้า จำนวน 96,359 ร้านค้าเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 26 ต.ค.2563 ที่ผ่านมา รวมทั้งอยู่ระหว่างการพิจารณาปรับปรุงระบบการจ่ายเงินให้ร้านค้าให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น”

 อย่างไรก็ตามหากร้านค้าใดยังไม่ได้รับเงินขอให้ติดต่อธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เพื่อตรวจสอบสถานะบัญชีว่าเป็นบัญชีที่ไม่มีการเคลื่อนไหวนานเกิน 1 ปีหรือไม่ หรือมีปัญหาอื่นใด