“คลัง” มั่นใจมาตรการรัฐช่วยกระตุ้นอสังหาฯปลายปีได้แน่!

  • ลั่น!มาตรการที่อออกมาไม่ได้เอื้อนายทุน
  • หนุนประชาชนตัดสินใจซื้อบ้านเร็วขึ้น
  • คาดดันอสังหาปีหน้าขยายตัวได้ถึง 7%

นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี (ปฏิบัติงานกระทรวงการคลัง) เปิดเผยว่า สถานการณ์ของภาคอสังหาริมทรัพย์ในช่วงสุดท้ายของปีนี้น่าจะได้รับผลดีจากมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของกระทรวงการคลัง หลายมาตรการ อาทิ โครงการ บ้านในฝัน รับปีใหม่ มาตรการกระตุ้นลดค่าโอนและจดจำนองเหลือ 0.01% และสินเชื่อจากธนาคาร ธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) วงเงิน 50,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 2.5% คงที่ 3 ปีแล้ว ธนาคารออมสินออกสินเชื่อบ้านผ่อนต่ำ ล้านละ 10 บาทวงเงิน 25,000 บ้านบาท รวมถึงธนาคารพาณิชย์อื่นๆลดดอกเบี้ยเงินกู้อสังหาริมทรัพย์ลงเหลือประมาณ 2.5-3% ล่าสุดรัฐบาลมีโครงการ บ้านดีมีดาวน์ สนับสนุนเงินเพื่อลดภาระการผ่อนดาวน์ (Cash Back) 50,000 บาทต่อรายสำหรับผู้ที่มีรายได้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อเดือน หรือไม่เกิน 1.2 ล้าน บาทต่อปี และจำกัดไว้เพียง 100,000 รายเท่านั้น

ทั้งนี้มาตรการทั้งหมดข้างต้นน่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ในช่วงที่เหลือของปีนี้ให้เป็นไปตามที่เคยประเมินไว้ว่าจะสามารถช่วยระบายสต๊อกบ้านที่มีอยู่จำนวน 35,000 หน่วย และคาดว่าจะช่วยทำให้ภาคอสังหาริมทรัพย์ในปีหน้าขยายตัวได้ 5-7% และเมื่อกลุ่มอสังหาฯได้รับผลดีก็จะทำให้ธุรกิจดีต่อเนื่องไปด้วยซึ่งส่งผลดีต่อการจ้างงาน

อย่างไรก็ตามขอยืนยันว่ามาตรการที่ออกมานั้นไม่ได้เอื้อต่อกลุ่มนายทุน แต่เป็นการมองภาพเศรษฐกิจในภาพรวมที่ยังมีปัญหาและรัฐบาลต้องเข้าไปช่วย

“มาตรการด้านอสังหาฯ ถือว่ารัฐบาลให้แบบสุดๆ แล้ว ทั้งช่วยค่าผ่อนดาวน์ ค่าโอน ลดดอกเบี้ยให้ เป็นโอกาสให้คนที่อยากมีบ้าน และกำลังตัดสินใจ เร่งตัดสินใจให้เร็วขึ้น ซึ่งโครงการบ้านดีมีดาวน์ และสินเชื่อจากธนาคารออมสินออกมาเพื่อช่วยเหลือบ้านราคาสูงกว่า 3 ล้านบาท ดังนั้นจึงไม่ได้กำหนดราคาบ้านเหมือนกับมาตรการโอนและจดจำนอง และการให้สินเชื่อของธอส. ที่กำหนดราคาบ้านไม่เกิน 3 ล้านบาท”