

- กรุงไทย ชี้ระงับการใช้งานเพื่อการตรวจสอบพฤติกรรมแล้ว
- แฉกลไโกง กินก๋วยเตี๋ยวต่อกัน 1 ชามทุกๆ 5 นาทีราว 40 ชาม
- แจง 5 ก.พ.ปิดแอปใช้สิทธิ “เราชนะ” หลังเน็ตกระตุก
นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย กล่าวถึงกรณีเมื่อวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมาได้เปิดให้ใช้จ่ายสำหรับกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แล้วมีเหตุระบบขัดข้องจึงทำการปิดระบบการใช้จ่ายชั่วคราว ว่า การขัดข้องครั้งนี้เกิดจากช่องว่างของระบบ เนื่องจากเดิมสิทธิที่ได้รับจะถูกตัดทิ้งเลยเมื่อครบกำหนด แต่ในระบบโครงการ “เราชนะ” จะสามารถสะสมยอดใช้จ่ายได้ทำให้เมื่อสัญญาณอินเทอร์เน็ตกระตุก การเชื่อมโยงของการส่งต่อข้อมูลของสองระบบมีช่องว่างเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตามทางถือว่าทางผู้ดูแลระบบพบเจอได้เร็ว โดยขณะนี้ได้ตรวจเช็คระบบ หรือการทำงาน เพื่อให้มีเสถียรภาพมากขึ้นแล้ว โดยในวันที่ 18 ก.พ.2564ที่โอนเงินให้ประชาชนวันแรกระบบจะไม่มีปัญหาแน่นอน
สำหรับยอดใช้จ่ายที่ชำระสิทธิเกินมีประมาณ 25,000 คน คิดเป็น 0.7% ของยอดการใช้จ่าย ณ วันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยในจำนวนนี้พบผู้ที่มีพฤติกรรมเข้าข่ายผิดปกติ ทั้งหมด 152 ร้านค้า และผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 167 คน ซึ่งมีการใช้จ่ายที่ผิดปกติอย่างมาก
ดังนั้นกระทรวงการคลังและธนาคารกรุงไทยจึงได้ระงับการใช้งานเพื่อการตรวจสอบพฤติกรรม ซึ่งตอนนี้ได้ร่วมมือกับทางเจ้าหน้าปกครอง เจ้าหน้าที่ของกระทรวงการคลัง และทีมงานของธนาคารกรุงไทยในแต่ละพื้นที่ ให้ลงไปตรวจสอบในเชิงลึกว่ามีพฤติกรรมการใช้จ่ายที่ผิดปกติจริงหรือไม่ โดยมีมูลค่าที่ใช้จ่ายไปในการใช้จ่ายผิดปกติเพียง 300,000 บาท เนื่องจากธนาคารกรุงไทยปิดระบบได้เร็ว
นายผยง กล่าวว่า รูปแบบการใช้จ่ายผิดปกติที่พบนั้นไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดเชิงลึกได้ เนื่องจากอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบ แต่สามารถยกตัวอย่างให้เห็นคร่าวๆได้ เช่น การซื้อก๋วยเตี๋ยวเพื่อรับประทาน ติดต่อกัน 1 ชาม ในทุกๆ 5 นาที ต่อเนื่องเป็น 30-40 ชาม เป็นต้น
ส่วนพฤติกรรมการใช้จ่ายที่ผิดปกติ จะเกิดขึ้นได้ต้องเป็นความร่วมมือของร้านค้าและประชาชน ซึ่งการตรวจสอบพฤติกรรมจะพุ่งเป้าไปที่ ร้านค้า เป็นหลัก
นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า นอกจากนี้ที่ผ่านมากระทรวงการคลังพบว่ามีประชาชนหรือร้านค้าที่ใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์ผิดวัตถุประสงค์ของโครงการฯ ดังนั้นกระทรวงการคลังจึงการประสานขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการติดตาม ตรวจสอบ และดำเนินการทางกฎหมายในประเด็นดังกล่าวแล้ว
ทั้งนี้หากพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขของโครงการฯ สามารถแจ้งเบาะแส ทางไปรษณีย์มาได้ที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง ถนนพระราม 6แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 หรือทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Mail Account) [email protected]