คลังไม่ถอยนโยบาย “ดิจิทัล วอลเล็ต” เร่งประชุมหาข้อสรุป คาดเห็นความชัดเจนสิ้น ต.ค.นี้

คลังเดินหน้านโครงการ “ดิจิทัล วอลเล็ต” ต่อ ต่อประชุมชุดเล็ก 12 ต.ค.นี้ พร้อมชงคณะกรรมการชุดใหญ่ 24 ต.ค.66 แย้มอาจขยับรัศมีการใช้ 4 กม. เป็นในตำบล อำเภอ จังหวัดแทน ย้ำไม่มีปัญหากับ ธปท. แต่อย่างใด

  • เผยรับฟังข้อเสนอ ธปท. นักวิชาการ พร้อมนำมาปรับใช้ให้โครงการมีประสิทธิภาพที่สุด
  • ย้ำ ดิจิทัล วอลเล็ต ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นตัวจุดชนวนกระตุ้นระบบเศรษฐกิจให้ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เผยประชาชนรอนโยบายนี้ใจจดจ่อ
  • ชี้แหล่งเงินที่จะใช้โครงการนี้ มาจากงบประมาณเป็นหลักใหญ่

วันนี้ (9 ต.ค.66) นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการ Digital Wallet (ดิจิทัลวอลเล็ต) ว่าจากการที่มีนักวิชาการยื่นจดหมายเปิดผนึกเพื่อคัดค้านนโยบายนี้ โดยกล่าวว่าถ้าเศรษฐกิจประเทศไทยยังเติบโตระดับนี้ คือจีดีพีขยายตัวแค่ 2% ประเทศไทยจะไม่มีงบประมาณเพียงพอไว้รองรับสังคมผู้สูงอายุในอนาคตโดยเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่ดีที่ฝ่ายนักวิชาการแสดงความคิดเห็นมา ซึ่งในจุดนี้ทางกระทรวงการคลังก็พร้อมรับฟัง และเปิดรับข้อเสนอแนะต่างๆ เพื่อมาเป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณาโครงการนี้ให้ออกมาให้มีประสิทธิภาพที่สุด

นายจุลพันธ์ กล่าวว่า วันนี้รัฐบาลที่นำโดย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ตั้งเป้าหมายอยากให้จีดีพีของประทศไทยเติบโตที่ 5% น้้น การจะไปถึงจุดนั้นได้ รัฐบาลก็ต้องมีการออกนโยบายเพื่อมากระตุ้นระบบเศรษฐกิจซึ่งโครงการดิจิทัล วอลเล็ต ก็เป็นหนึ่งในนโยบายที่จะช่วยขับเคลื่อนการบริโภคภายในประเทศ ที่ผ่านมาจีดีพีไทยเติบโตเพียง 2% ซึ่งหากเทียบกับประเทศในภูมิภาคถือว่าไทยเติบโตได้ช้ามาก 

ทั้งนี้ นโยบายดิจิทัล วอลเล็ต ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นตัวจุดชนวนกระตุ้นระบบเศรษฐกิจให้ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เติมเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจอย่างทั่วถึง ให้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกระจายไปถึงฐานราก ยกระดับคุณภาพชีวิต และสร้างโอกาสในการประกอบอาชีพให้ประชาชน เกิดการจ้างงาน ภาคธุรกิจมีการลงทุน โดยในส่วนของรัฐบาลก็จะได้รับเงินกลับคืนมาในรูปของภาษี อีกทั้งนโยบายดิจิทัล วิลเล็ต นี้ จะเป็นรากฐานสำคัญให้กับระบบเศรษฐกิจไทย ที่จะมุ่งสู่กสรเป็น “ดิจิทัล อีโคโนมี” และการที่ภาครัฐ จะมุ่งไปสู่การเป็น e-government ต่อไป

“จากการได้ลงพื่นที่ในต่างจังหวัด พบว่าพี่น้องประชาชน 100% รอคอยโครงการดิจิทัล วอลเล็ต นี้เป็นอยากมาก ก็ขอย้ำว่ารัฐบาลยังคงเดินหน้าทำโครงการนี้ต่อแน่นอน รวมถึงขอย้ำว่าโครงการนี้จะทำถูกต้องตามข้อกฎหมาย รวมถึงกฎระเบียบของทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ทุกขั้นตอน” นายจุลพันธ์ กล่าว

นายจุลพันธ์ กล่าวต่อว่า จากการเปิดตัวโครงการนี้ ก็มีประชาชนถามกันมามากว่า ทำไม่ต้องมีนโยบายดิจิทัล วอลเล็ตนี้ด้วย ซึ่งคำตอบก็คือ ปัจจุบันประเทศไทยมีปัญหาที่จะสะสมมาเป็นเวลานาน ประชาชนมีความยากลำบากในการดำเนินชีวิต โดยเฉพาะประชาชนในต่างจังหวัด อีกทั้งที่ผ่านมารายได้ของภาคการเกษตรลดลงอย่างมาก รัฐบาลก็จัดเก็บภาษีได้น้อยลงด้วย ขณะที่ภาระหนี้ครัวเรือนในประเทศสูงขึ้น ด้านหนี้สาธารณะของรัฐบาลก็ปรับตัวสูงขึ้นจากระดับ 40% ของจีดีพี มาอยู่ที่กว่า 60% ของจีดีพีในปัจจุบัน ซึ่งจากปัญหาดังกล่าว ทำให้ภาครัฐต้องเข้ามาช่วยเหลือ”

ทั้งนี้ ขอย้ำว่านโยบายดิจิทัล วอลเล็ต แนวปฏิบัติยังคงแจกประชาชนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป รวมทั้งนิ้น 56 ล้านคน โดยต้องใช้งบประมาณราว 5.6 แสนล้านบาท ก็ขอย้ำว่าเงินที่ว่านี้ จะไม่ใช่เงินคริปโตเคอเรนซี่ รวมถึงไม่ได้เป็นการเสกเงิน หรือพิมพ์ขึ้นมาใหม่แต่อย่างใด เงินทุกบาทยังอยู่ในกรอบของกฎหมายภายใต้ ธปท.

ทั้งนี้ รูปแบบเงินในโคงการดังกล่าว ไม่สามารถปรับเปลี่ยนมูลค่าได้ รวมถึงเป็นเงินที่ถูกหนุนโดยเงินบาทไทย โดยเป็นเงินที่ใช้ผ่านกระบวนการดิจิทัล และกำหนดเงื่อนไขในการใช้จ่ายเงิน เพื่อให้เงินดีงกล่าวหมุนเวียนอยู่ในระบบเศรษฐกิจให้มากที่สุด โดยเงื่อนไขที่กำหนดขึ้นมา จะเป็นตัวกระตุ้นการหมุนเวียนของเงิน อาทิ ต้องใช้จ่ายภายใน 6 เดือน เพื่อไม่ให้ประชาชนเก็บเงินดิจิทัลไว้นาน รวมถึงข้อกำหนดห้ามใช้หนี้ หรือใช้จ่ายสินค้าที่เป็นอบายมุข เป็นต้น

“สำหรับข้อการกำหนดเงื่อนไข ที่ให้ใช้จ่ายภายในรัศมี 4 กิโลเมตรตามที่อยู่ในทะเบียนบ้าน ขณะนี้ในเบื้องต้นอาจมีการขยายรัศมีดังกล่าว ซึ่งอาจจะขยายเป็นการครอบคลุมในรัศมีตำบล อำเภอ หรือจังหวัดแทน ซึ่งในจุดนี้จะมีการหาข้อสรุปอีกครั้ง โดยคาดว่าคณะอนุกรรมการดิจิทัล วอลเล็ต จะเคาะสรุปผลได้ภายในสิ้นเดือน ต.ค.นี้ โดจากนั้นก็จะนำเสนอคณะกรรมการชุดใหญ่ ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธานต่อไป” นายจุลพันธ์ กล่าว

นายจุลพันธ์ กล่าวด้วยว่า ในส่วนของประเด็นแหล่งที่มาของเงินที่ใช้ในโครงการดิจิทัล วอลเล็ต ตอนนี้ยังต้องขอใช้เวลาในการพิจารณา ก่อน เนื่องด้วยมีตัวเลือกมากกว่า 1 แนวทาง แต่ขอยืนยันว่า การใช้จ่ายโครงการนี้จะอยู่ในกรอบของวินัยการเงินการคลังแน่นอน

“สำหรับแหล่งเงินของโครงการนี้ จะใช้แหล่งเงินจากงบประมาณเป็นหลักใหญ่ โดยภาครัฐจะใช้งบประมาณให้เกิดประโยชน์ และมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยมีแผนที่จะตัดไขมันส่วนเกินในงบประมาณในจุดที่ไม่มีประสิทธิภาพออก” นายจุลพันธ์ กล่าว

นายจุลพันธ์ กล่าวต่อว่า นโยบายของพรรคเพื่อไทยที่ได้ให้ไว้กับประชาชน จะมุ่งเน้นการสร้างเศรษฐกิจที่เติบโตควบคู่ไปกับการยึดกรอบเศรษฐกิจที่มีเสถียรภาพ ที่ผ่านมาเศรษฐกิจจีดีพีปรเเทศขยายตัวเพียง 2% ประชาชนก็ไม่สามารถหลุดพ้นจากความยากลำบากได้ ดังนั้นเป็นหน้าที่ของรัฐบาล ที่ต้องสร้างระบบเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างเหมาะสม และมีเสถียรภาพ ซึ่งรัฐบาลต้องหาจุดที่สมดุล

อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 12 ต.ค.66 นี้ จะมีการประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนนโยบาย ดิจิทัล วอลเล็ต เป็นครั้งแรกโดยหลังการประชุมก็จะมีการแถลงข่าวด้วย จากนั้นก็จะประชุมอีกครั้งวันที่ 19 ต.ค.66 เพื่อหารือถึงข้อสรุปโครงการให้ชัดเจน เตรียมนำเสนอต่อคณะกรรมการชุดใหญ่ ซึ่งคาดว่าจะนำผลสรุปของคณะอนุกรรมการที่ประชุม 2 ครั้ง เสนอต่อคณะกรรมการชุดใหญ่ในวันที่ 24 ต.ค.66 ต่อไป

“ยืนยันว่า รัฐบาลไม่มีความขัดแย้งในโครงการนี้กับทาง ธปท.แต่อย่างใด โดยทาง ผู้ว่าฯ ธปท. ยังมานั่งเป็นกรรมการในคณะกรรมการชุดใหญ่ ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานอีกด้วย ทั้งนี้ หากมีข้อเสนอจากทาง ธปท. ทางรัฐบาลก็พร้อมรับฟัง รวมถึงจะนำมาข้อเสนอเหล่านั้น มาปรับใช้ให้เกิดความสมดุลที่สุด” นายจุลพันธ์ กล่าว