- เล็งปล่อยสินเชื่อโครงการขนาดใหญ่ระหว่างประเทศ
- ลดกระบวนการสินเชื่อจาก 4 เดือน เหลือ 28 วัน
นายรักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) หรือเอ็กซิมแบงก์ เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้เห็นชอบการเพิ่มทุนให้ธนาคารวงเงิน 6,700 ล้านบาท เพื่อนำไปขยายการปล่อยสินเชื่อแก่ผู้ส่งออก รองรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจการค้าโลก โดยคาดว่ากระบวนการเพิ่มทุนจะเสร็จสิ้นภายใน 1-2 เดือนนี้ ซึ่งจะทำให้ธนาคารมีทุนสะสมเพิ่มขึ้นจาก 12,000 ล้านบาท เป็น 18,700 ล้านบาท ช่วยขับเคลื่อนการปล่อยสินเชื่อปีนี้ให้มียอดคงค้างเพิ่มจาก 138,000 ล้านบาท เป็น 150,000 ล้านบาท
“การเพิ่มทุนครั้งนี้จะช่วยเสริมศักยภาพให้เอ็กซิมแบงก์ ให้สามารถปล่อยกู้และมีบทบาทในการเป็นธนาคารแห่งการพัฒนาได้อีกไม่ต่ำกว่า 78,000 ล้านบาท ซึ่งธนาคารมีแผนจะสร้างผู้ส่งออกให้มากกว่าเดิม รวมถึงสนับสนุนสินเชื่อในโครงการลงทุนที่มีขนาดใหญ่ขึ้น นอกจากนี้คลังยังพร้อมจะพิจารณาเพิ่มทุนส่วนที่เหลืออีก 8,300 ล้านบาท จากแผนเพิ่มทุนที่ขอไปทั้งหมด 15,000 ล้านบาท หากธนาคารปล่อยสินเชื่อได้ถึง 190,000 ล้านบาท”
อย่างไรก็ตามปัจจุบันธนาคารมีลูกค้าประมาณ 4,000-5,000 ราย จากจำนวนผู้ส่งออกทั้งประเทศ 30,000 ราย ซึ่งถือว่ามีจำนวนไม่มาก ดังนั้นธนาคารจึงวางแผนจะขยายจำนวนลูกค้าให้มากขึ้น โดยเข้าไปใช้บทบาทการเป็นธนาคารเพื่อการพัฒนา ลงไปให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะธุรกิจรายเล็ก ขนาดกลาง ธุรกิจที่มีความฝันจะเป็นผู้ส่งออก เพื่อสร้างผู้ส่งออกรายใหม่ๆเข้ามาเพิ่ม โดยตั้งเป้าหมายภายใน 4 ปี จะมีผู้ประกอบการเข้ามาเป็นลูกค้าใหม่ ใช้บริการเอ็กซิมแบงก์ได้อีก 100,000ราย
นอกจากนี้ ธนาคารยังตั้งเป้าหมายเข้าไปปล่อยสินเชื่อให้กับธุรกิจไทยที่มีศักยภาพ เพื่อไปลงทุนโครงการขนาดใหญ่ในต่างประเทศ รวมถึงโครงการที่ต้องอาศัยความร่วมมือระดับภาครัฐเพิ่ม ซึ่งปัจจุบันโครงการลงทุนขนาดใหญ่ล้วนมีวงเงินเกิน 10,000 ล้านบาท ดังนั้นเมื่อเพิ่มทุนเสร็จก็สามารถเข้าไปเป็นผู้นำปล่อยสินเชื่อโครงการขนาดใหญ่ ตลอดจนปล่อยกู้ให้ธุรกิจรายเล็กที่เป็นซัพพลายเชนให้กับโครงการใหญ่ๆด้วย ซึ่งที่ผ่านมาเอ็กซิมแบงก์ ได้ปล่อยกู้โครงการลงทุนระหว่างประเทศแล้วหลายราย เช่น การสร้างเขื่อนในประเทศลาว โครงการครอสโร้ดส์ พัฒนารีสอร์ตและแหล่งท่องเที่ยวครบวงจรในมัลดีฟ รวมถึงโครงการแหล่งท่องเที่ยวสกีรีสอร์ท ที่ฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น
“ธนาคารจะเร่งปรับปรุงกระบวนการให้สินเชื่อแก่ลูกค้า โดยผ่อนปรนให้อนุมติง่ายและรวดเร็วขึ้น ปกติใช้เวลานานถึง 4 เดือนครึ่ง ลดเหลือเพียง 28 วัน พร้อมกับลดจำนวนเอกสาร ลดความซ้ำซ้อนขั้นตอนอนุมัติ รวมถึงการปรับปรุงผลิตภัณฑ์สินเชื่อใหม่แบบง่ายๆ เหมาะแก่ผู้ประกอบการรายย่อย และธุรกิจที่กำลังเริ่มเป็นส่งออก”
นอกจากนี้จะนำกลไก บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.)เข้ามาช่วยค้ำประกันให้แก่ลูกค้าได้วงเงินถึง 100 ล้านบาท ไม่ต้องนำบ้าน นำที่ดิน คนในครอบครัว หรือกิจการมาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันอีก
