

- หวังช่วยผู้ประกอบการและประชาชน
- สำนักงบเผยรัฐบาลยังไม่ขอจัดสรรงบดูแลโควิด
นางสาวกุลยา ตันติเตมิท รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้(12ม.ค.)กระทรวงการคลังจะเสนอมาตรการดูแลผู้ประกอบการและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยผ่านการดำเนินการของสถาบันการเงินของรัฐ(แบงก์รัฐ)อาทิ การเพิ่มสภาพคล่อง และ การดูแลลูกหนี้ในกลุ่มต่างๆ โดยในรายละเอียดจะมีการแถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง
ทั้งนี้ ในส่วนของสภาพคล่องนั้น จะมีวงเงินรวมกว่า 200, 000 ล้านบาทที่จะอัดฉีดเข้าไปช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการ ในจำนวนนี้มีวงเงินราว 100, 000 ล้านบาท ที่จะเป็นสภาพคล่องคงเหลือจากการออกมาตรการช่วยเหลือที่ทำไว้จากการระบาดโควิด-19ในระยะแรก
นอกจากนี้ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สภาพัฒน์)จะเสนอมาตรการลดค่าใช้จ่ายแก่ประชาชน ซึ่งอาจจะดำเนินการผ่านการลดค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า เป็นต้น สำหรับมาตรการเยียวยาประชาชนในด้านต่างๆนั้น ยังไม่มีการนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุม
นายเดชาภิวัฒน์ ณ สงขลา ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณกล่าวว่า กรณีรัฐบาลต้องออกมาตรการมาดูแลเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19ระลอกใหม่ในขณะนี้ เข้าใจว่า รัฐบาลจะยังไม่ใช้วงเงินจากงบประมาณรายจ่ายปี 2564 ที่กันไว้สำหรับดูแลภัยพิบัติต่างๆ รวมถึง โควิด-19 แต่จะใช้วงเงินจากพ.ร.ก.เงินกู้ฉุกเฉิน 1 ล้านล้านบาท ที่ยังคงเหลือกว่า 400, 000 ล้านบาทก่อน
ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2564 รัฐบาลจัดสรรงบประมาณเพื่อดูแลโควิด-19 ไว้จำนวน 40,000 ล้านบาท และ จัดสรรไว้ดูแลกรณีเกิดภัยพิบัติ ซึ่งรวมถึง โควิด-19 ด้วยอีก 90, 000 ล้านบาท รวมเป็น 130, 000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามขณะนี้ เริ่มมีภัยพิบัติจากเหตุการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ต่างๆ และอาจจะมีปัญหาภัยแล้งเกิดขึ้นในช่วงปีนี้ ดังนั้น งบประมาณที่เตรียมไว้อาจจะต้องกันไว้สำหรับดูแลภัยพิบัติต่างๆด้วย
“เชื่อว่าสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 จะทยอยดีขึ้น แม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อจากโควิด-19 จะมีจำนวนสูงเมื่อเทียบกับการระบาดในระยะแรก แต่จำกัดวงอยู่ใน 28 จังหวัด ทำให้สามารถคุมสถาการณ์ได้ดีกว่าระยะแรกที่ไม่รู้ว่าจะมีการระบาดในพื้นที่ใดบ้าง”