ครม.ไฟเขียว โอนย้าย 3 สนามบิน “อุดรธานี-บุรีรัมย์-กระบี่”ให้ ทอท.บริหาร



  • รองรับการพัฒนา Cluster การขนส่งทางอากาศในอนาคต
  • เผยกรอบวงเงินลงทุนรวม 10,000 ล้านบาท

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบในหลักการให้ บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เข้ามาเป็นผู้รับผิดชอบดูแลและบริหารจัดการ สนามบินอุดรธานี สนามบินบุรีรัมย์และสนามบินกระบี่ แทน กรมท่าอากาศยาน(ทย.)  โดยกระทรวงคมนาคมจะมีการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ รวมถึงมีการเปรียบเทียบกรณี ทย. เป็นผู้รับผิดชอบสนามบิน และกรณีที่ ทอท.เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการเองว่ามีข้อดี ข้อเสียอย่างไร รวมทั้งได้มีการคาดการณ์ประมาณการของผู้โดยสารหาก ทอท. เข้ามาดำเนินการและประเมินแผนการลงทุน พัฒนาท่าอากาศยาน ,ประมาณการรรายได้ รายจ่าย ผลตอบแทนทางการเงิน  รวมถึงผลกระทบต่อ ทย. และทอท.หากแผนบริหารความเสี่ยงไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ คาดว่าจะใช้เวลาศึกษาใน 2-3 เดือนนี้

โดย สนามบินอุดรธานี จะมีบทบาทเป็นสนามบินหลักที่ทำหน้าที่เป็น Gateway ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนและ ทอท.มีแนวทางการพัฒนาให้สนามบินอุดรธานีเป็น ท่าอากาศยานระดับภาค และท่าอากาศยานศูนย์กลางรองในอนาคต ซึ่งจะสามารถพัฒนาโครงข่ายเชื่อมโยงร่วมกับสนามบินบุรีรัมย์ที่ทำหน้าที่เป็นท่าอากาศยานรองในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง มีปัจจัยมาจากศักยภาพของทำเลที่ตั้ง ความพร้อมด้านกายภาพและห้วงอากาศ และนโยบายสนับสนุนจากทางภาครัฐด้านการท่องเที่ยวและกีฬา รวมถึงนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองหลักและเมืองรอง

ส่วนสนามบินกระบี่นั้น เนื่องจากจังหวัดกระบี่ เป็นจังหวัดที่มีความได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ ตั้งอยู่กึ่งกลางของจังหวัดฝั่งอันดามันและฝั่งอ่าวไทย สามารถตอบสนองนโยบายด้านการท่องเที่ยวได้ และสนามบินกระบี่ยังสามารถเป็นท่าอากาศยานที่ช่วยบรรเทาปัญหาความแออัดของสนามบินภูเก็ต ที่มีข้อจำกัดด้านการขยายขีดความสามารถในการรอบรับปริมาณการจราจรทางอากาศทั้งภาคพื้นและภาคอากาศในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง และสนามบินกระบี่ยังรองรับความต้องการเดินทางในรูปแบบอากาศยานส่วนตัวที่มีมากขึ้นในอนาคต 

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ทอท.ได้กำหนดแผนพัฒนาสนามบินทั้ง 3 แห่ง มีกรอบวงเงินลงทุนประมาณ9,199.90 ล้านบาท (กรณีสนามบินพังงา เปิดให้บริการในปี 74) หรือวงเงินลงทุนรวม 10,471 ล้านบาท (กรณีสนามบินพังงาไม่เปิดให้บริการ) แยกเป็น สนามบินอุดรธานี กรอบวงเงินลงทุน 3,523 ล้านบาท  สนามบินบุรีรัมย์ 460 ล้านบาท และสนามบินกระบี่ กรณีสนามบินพังงา เปิดให้บริการในปี 74 วงเงินลงทุนจะอยู่ที่ 5,216 ล้านบาท และสนามบินพังงาไม่เปิดให้บริการ วงเงินลงทุนจะอยู่ที่ 6,487 ล้านบาท

นอกจากนั้น จากการวิเคราะห์แนวโน้มอุตสาหกรรมการบิน คาดว่าอุตสาหกรรมการบินจะกลับมาฟื้นตัวภายในปี 67  หลังจากที่ผ่านมาได้รับผลกระทบอย่างมากจากสถานการณ์โควิด ประกอบกับนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวของประเทศไทยที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง และ การส่งเสริมการตลาดที่เน้นการท่องเที่ยวในภูมิภาคอาเซียน จึงได้มีการทบทวนให้ทอท.เป็นผู้รับผิดชอบในการดูแลและบริหารจัดการท่าอากาศยานแทน ทย.จากเดิม 4 แห่ง ได้แก่สนามบินอุดรธานี สนามบินสกลนคร สนามบินตาก และสนามบินชุมพร เปลี่ยนมาเป็น 3 แห่ง คือสนามบินอุดรธานีสนามบินบุรีรัมย์ และสนามบินกระบี่ เพื่อความเหมาะสมในเชิงยุทธศาสตร์ตามแนวคิดการพัฒนาโครงข่ายระบบท่าอากาศยานของประเทศในภาพรวมและการดำเนินธุรกิจในรูปแบบ Cluster ด้านการขนส่งทางอากาศ

ทั้งนี้ การให้ ทอท.เข้าไปเป็นผู้รับผิดชอบในการดูแลและบริหารสนามบินอุดรธานี สนามบินบุรีรัมย์ และท่สนามบินกระบี่ แทน ทย.พบว่า จะเป็นการสนับสนุนให้มีการกำหนดบทบาทท่าอากาศยานของประเทศและการจัดรูปแบบการพัฒนาระบบท่าอากาศยานของประเทศในรูปแบบ Cluster ด้านการขนส่งทางอากาศ จะเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนการขนส่งทางอากาศของประเทศไทย โดยจะเป็นการเชื่อมต่อการขนส่งทางอากาศภายใต้โครงข่ายระบบท่าอากาศยานภายในประเทศไปสู่การเชื่อมโยงโครงข่ายระบบท่าอากาศยานระหว่างประเทศต่อไป