ครม.อัดเงิน 22,400 ล้านบาท ไฟเขียว 3 แพคเกจดันคน ไทยท่องเที่ยวในประเทศ

  • ลดค่าห้องพัก 40% สูงสุด 3,000 บาทต่อคืน
  • แถมเงินส่วนลดค่าเที่ยว-อาหาร 600 บาทต่อสูงสุด 5 วัน
  • พร้อมส่วนลดค่าเดินทาง 40%

นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบในหลักการโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมภาคการท่องเที่ยว ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อฟื้นฟูภาคธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศ ตามที่คณะกรรมการกลั่นกรองการใช้เงินกู้เสนอ วงเงิน 22,400 ล้านบาท โดยใช้เงินในส่วนการเยียวยาเศรษฐกิจและสังคมวงเงิน 400,000 ล้านบาท ประกอบด้วย 3 โครงการ ระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่เดือนก.ค. – ต.ค. 2563 รวมระยะเวลา 4 เดือน ได้แก่ 1.โครงการกำลังใจ โดยรัฐบาลสนับสนุนค่าเดินทางของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) รวม 1.2 ล้านคน ให้เดินทางโดยการใช้บริการกับบริษัทนำเที่ยว ซึ่งรัฐจะสนับสนุนงบประมาณเดินทางไม่เกินคนละ 2,000 บาท สำหรับการเดินทางที่ไม่น้อยกว่า 2 วัน 1 คืน วงเงิน 2,400 ล้านบาท

2.โครงการเราไปเที่ยวกัน โดยรัฐบาลสนับสนุนค่าโรงแรมที่พักในลักษณะร่วมจ่าย (Co-pay) จำนวน 5 ล้านคืน ในอัตรา 40% ของค่าห้องพักแต่ไม่เกิน 3,000 บาทต่อคืน และสนับสนุนค่าอาหารและค่าใช้จ่ายสถานที่ท่องเที่ยวที่เข้าร่วมโครงการ และ ททท. จะแจ้งรายชื่อแก่ธนาคารกรุงไทยฯ จำนวน 600 บาทต่อห้องต่อคืน โดยส่วนนี้ใช้เป็นส่วนลดค่าอาหารและค่าสถานที่ท่องเที่ยว โดยจะต้องมีที่ตั้งอยู่ในจังหวัดอื่นที่ไม่ใช่จังหวัดในทะเบียนบ้านของประชาชนผู้จองที่พัก วงเงินรวม 18,000 ล้านบาท

3.โครงการเที่ยวปันสุข โดยรัฐบาลสนับสนุนการเดินทางของประชาชน จำนวนไม่น้อยกว่า 2 ล้านคน โดยการจำหน่ายบัตรโดยสารของผู้ประกอบการขนส่งด้านการท่องเที่ยว 3 กลุ่ม ได้แก่ สายการบินในประเทศไทย รถขนส่งไม่ประจำทางข้ามจังหวัด และรถเช่าในอัตรา 40% แต่ไม่เกิน 1,000 บาท โดยผู้ที่จองตั๋วเครื่องบินที่ลงทะเบียนโครงการเราไปเที่ยวกันจะได้สิทธิ์ในการลดราคาตั๋วเครื่องบินในแพคเกจนี้ด้วย โดยโครงการนี้จะใช้เงินทั้งหมด 2,000 ล้านบาท

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า โครงการนี้จะช่วยเพื่อฟื้นฟูธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ ประกอบด้วย ผู้ประกอบการโรงแรมที่พัก ผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยว และผู้ประกอบการขนส่ง เพื่อการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบการระบาดของโควิด โดยกระทรวงท่องเที่ยวฯและ ททท.ต้องจัดทำรายละเอียดมาเสนอ ครม.อีกครั้งภายใน 2 สัปดาห์ ในเรื่องของระบบการจัดลงทะเบียนที่จะให้ธนาคารกรุงไทยจัดทำแพลตฟอร์มจะทำอย่างไร แพคเกจที่จะจัดทำจะเป็นแบบไหน รวมถึงการดาวโหลดแอพพลิเคชั่น เพื่อใช้เป็นช่องทางรวบรวมข้อมูลและรายละเอียด โดยโรงแรมหรือโฮมสเตย์ที่เข้าร่วมจะต้องจดทะเบียนถูกต้องเท่านั้น

ด้านนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า ประชาชนที่เข้าร่วมในโครงการเราไปเที่ยวกัน 1 คนจะได้ 1 สิทธิ์ พักโรงแรมได้ไม่เกิน 5 คืน ซึ่งเงื่อนไขที่วางไว้ว่ารัฐบาลจ่ายให้ 40% ไม่เกิน 3,000 บาทต่อห้องต่อคืน เท่ากับราคาห้องสูงสุดจะอยู่ที่คืนละ 7,500 บาท ถ้าใช้สิทธิเต็ม 5 คืน เท่ากับรัฐบาลจะจ่ายค่าที่พัก 15,000 บาทแทนผู้ใช้สิทธิ์ โดยผู้ใช้สิทธิ์ต้องจ่าย 60% ก่อน เป็นเงิน 22,500 บาท และเงิน 40% จำนวน 15,000 บาท รัฐบาลจะจ่ายให้ผู้ประกอบการ ไม่ใช่คืนมาที่ผู้เข้าพัก ส่วนเรื่องส่วนลดค่าตั๋วเครื่องบินในโครงการเที่ยวปันสุข มี 2 รูปแบบ คือ สายการบินได้มีข้อตกลงกันว่าจะทำตั๋วโดยสารไป-กลับ ราคาพิเศษ 2,500 บาท ซึ่งสามารถนำไปร่วมกับโครงการเราไปเที่ยวกันได้ แต่สำหรับคนที่ไม่ได้ใช้ตั๋วราคาพิเศษดังกล่าวก็สามารถซื้อตั๋วทั่วไปแต่ได้ส่วนลด 40% แต่ไม่เกิน 1,000 บาทได้ นอกจากนี้ ผู้ใช้สิทธิ์จะได้รับ E-Voucher หรือบัตรกำนัลอิเลคทรอนิคส์ ผ่านแอพพลิเคชั่นเป๋าตัง 600 บาทต่อคืนไม่เกิน 5 คืน เพื่อนำไปใช้เป็นส่วนลดค่าอาหารหรือค่าเข้าแหล่งท่องเที่ยว มีข้อแม้ว่าต้องเป็นจังหวัดเดียวกับที่โรงแรมที่เข้าพักตั้งอยู่ด้วย