

.นำแนวพระราชดำริช่วยประชาชนพ้นยากจน
.บรรเทาปัญหาความมั่นคง
.ชายแดนใต้และชายแดนเหนือ
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี(ครม.)อนุมัติกรอบงบประมาณวงเงิน 572.58 ล้านบาท ให้มูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ และสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ ตามที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เสนอ เพื่อนำไปใช้ดำเนินการตามแผนปฏิบัติการบูรณาการขับเคลื่อนการพัฒนาตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงระยะที่ 3 ปี 2564-2565 โดยมี 3 แผนงานที่สำคัญประกอบด้วย 1.การเสริมสร้างความเข้มแข็งของพื้นที่ต้นแบบเดิมไปสู่ความยั่งยืน วงเงิน 62ล้านบาท โดยประชาชนในพื้นที่ต้นแบบพ้นจากความยากจนไม่น้อยกว่า 80% พึ่งพาตนเองได้ 2.ส่งเสริมการประยุกต์ใช้แนวพระราชดำริในพื้นที่ที่มีปัญหาความมั่นคง วงเงิน 224.58 ล้านบาทใน 3 จังหวัดชายแดนใต้และ 4 จังหวัดชายแดนเหนือ 3.สนับสนุนการขับเคลื่อนและขยายผลการพัฒนาตามแนวพระราชดำริ วงเงิน 286 ล้านบาท ด้วยการจัดการความรู้และพัฒนาบุคลากร
ทั้งนี้ มูลนิธิปิดทองหลังพระฯ ได้รายงานผลการดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์การบูรณาการการขับเคลื่อนการพัฒนาตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงระยะที่ 1-2 ที่ (2554-2562) ซึ่งมีผลลัพธ์หลักเป็นที่น่าพอใจใน 7 พื้นที่ต้นแบบ ประกอบด้วย มีการพัฒนาระบบน้ำจนทำให้ประชาชน 79,218 ครัวเรือนใน 98 หมู่บ้าน มีน้ำใช้เพียงพอ สามารถทำการเกษตรได้ดีในพื้นที่ 275,714 ไร่ เกษตรกรมีพัฒนาการด้านอาชีพ โดยเฉพาะพืชหลังนาที่มีมูลค่าสูง ทำให้รายได้ประชาชนในพื้นที่ต้นแบบทั้ง 9 จังหวัดเพิ่มขึ้นจาก 109.5 ล้านบาท เป็น 2,679 ล้านบาทต่อปี ผลผลิตข้าวต่อไร่เพิ่มจาก 350 กิโลกรัม เป็น 600 กิโลกรัมต่อไร่ รวมทั้งประชาชนที่เข้าร่วมโครงการและกิจกรรมต้นแบบ มีรายได้เฉลี่ยครอบครัวละ 350,309 ต่อปี สูงกว่าประชาชนที่ไม่ได้เข้าร่วมในพื้นที่ใกล้เคียงกัน 63 %
นอกจากนี้ ได้พัฒนาอาชีพในพื้นที่เปราะบาง จังหวัดน่านและอุทัยธานี ช่วยเพิ่มพื้นที่ป่าและป่าเศรษฐกิจได้ 106,580 ไร่ และเกิดฝายอนุรักษ์ขึ้นจำนวน 6,259 แห่ง และพัฒนาบุคลากรด้านน้ำและพลังงานทดแทนเพื่อการเกษตรจำนวน 119 คน ซึ่งสามารถนำไปขยายผลนอกพื้นที่ต้นแบบเป็นจำนวน 1,400 โครงการ เกิดพื้นที่รับน้ำเพิ่มขึ้น 181,167 ไร่ ประชาชนได้รับประโยชน์ 48,930 ครัวเรือน ตลอดจน ประชาชนในพื้นที่ต้นแบบพ้นจากความยากจน 76% เพิ่มจากเดิมก่อนการทำโครงการ ซึ่งเคยมีสัดส่วนประชากรใต้เส้นยากจนประมาณ 50 %