ครม.อนุมัติงบกลาง 172 ล้านบาท สงเคราะห์ค่าทำศพผู้สูงอายุ รายละ 3,000 บาท กว่า 5.74 หมื่นคน



  • เผย ณ วันที่ 30 ก.ย.64 มีผู้สูงอายุเสียชีวิตถึง 127,168 คน มากกว่าคาดการณ์ไว้ที่ 69,713 คน
  • ชี้การขอรับเงินสงเคราะห์ค่าทำศพ ต้องเข้าหลักเกณฑ์ 4 ข้อ

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่15 มี.ค. 2565 ว่า ครม.อนุมัติงบประมาณปี 2565 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นจำนวน 172.36 ล้านบาท เพื่อเป็นเงินสงเคราะห์ค่าทำศพผู้สูงอายุตามประเพณี รายละ 3,000 บาท ในปี 2564 เพิ่มเติม จำนวน 57,455 คน ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ เนื่องจากในปี 2564 ข้อมูลณ วันที่ 30 ก.ย.64 มีจำนวนผู้สูงอายุเสียชีวิตสูงถึง 127,168 คน ซึ่งมากกว่าจากที่คาดการณ์ไว้ที่ 69,713 คนกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จึงมีความจำเป็นต้องขอรับการสนับสนุนงบดังกล่าว

ทั้งนี้การขอรับเงินสงเคราะห์ค่าทำศพตามประเพณี ผู้สูงอายุที่เสียชีวิตจะต้องเข้าหลักเกณฑ์ดังนี้ 1)ผู้เสียชีวิตอายุเกิน60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป 2) สัญชาติไทย 3)ผู้สูงอายุที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 4)ผู้สูงอายุซึ่งอยู่ในศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ สถานสงเคราะห์ สถานดูแล สถานคุ้มครอง หรือสถานใดๆ ของรัฐหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ดำเนินการจัดการศพตามประเพณีโดยมูลนิธิ สมาคม วัด มัสยิด โบสถ์ โดยผู้ยื่นคำขอ (ครอบครัวผู้เสียชีวิตญาติผู้รับผิดชอบจัดการศพ) จะต้องยื่นคำขอในท้องที่ที่ผู้สูงอายุมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านภายใน 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่ออกใบมรณบัตร พร้อมกับเอกสารสำคัญ เช่น ใบมรณบัตรของผู้สูงอายุ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐของผู้สูงอายุหรือหนังสือรับรอง บัตรประจำตัวประชาชน สมุดบัญชีหรือเลขที่บัญชีธนาคารของผู้ยื่นคำขอ (เพื่อโอนเงิน) 

ทั้งนี้กรณีอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ให้ยื่นคำขอที่สำนักงานเขต ส่วนจังหวัดอื่นๆ ให้ยื่นคำขอในท้องที่ เช่นสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด ที่ว่าการอำเภอ สำนักงานเทศบาล ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบล เป็นต้น