ครม.สั่งปรับการใช้งบประมาณปี 2563โอนมา ช่วยแก้ปัญหาโควิด-19-ภัยแล้ง



  • สั่งริบงบกลางที่ ครม.อนุมัติไปแล้วคืน
  • งบลงทุนก็ปรับใหม่ซื้อครุภัณฑ์ในประเทศ

นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นชอบมาตรการด้านงบประมาณเพื่อบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า หรือ โควิด-19 และสถานการณ์ภัยแล้ง โดยให้แต่ละหน่วยงานที่รับงบประมาณ ไปจัดสรรการใช้งบประมาณภายในหน่วยงานใหม่แบ่งเป็น งบรายจ่ายประจำให้ปรับลดการใช้จ่ายหรือปรับเปลี่ยนวิธีการดำเนินงานที่ไม่ใช่ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการต่างประเทศให้ได้ 10% ของงบประมาณรายจ่ายประจำของหน่วยงานนั้น เพื่อเอาไปดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างจากผู้ประกอบการหรือผู้ผลิตรายย่อยรวมถึงการจ้างแรงงาน และให้ปรับแผนการใช่งบประมาณเดินทางไปราชการต่างประเทศที่ตั้งไว้สำหรับศึกษา ดูงาน ประชุม สัมมนา อบรม มาดำเนินการภายในประเทศแทนหรือเปลี่ยนแปลงงบประมาณ ไปใช้จัดซื้อจัดจ้างจากผู้ประกอบการหรือผู้ผลิตรายย่อยรวมถึงการจ้างแรงงาน

ขณะเดียวกัน ในส่วนของงบประมาณรายจ่ายลงทุน ในลักษณะค่าครุภัณฑ์ที่มีวงเงินต่ำกว่า 1 ล้านบาทหรือสิ่งก่อสร้าง ที่มีวงเงินต่ำกว่า 10 ล้านบาท ที่แน่ชัดว่าไม่สามารถจัดซื้อจัดจ้างได้ภายในเดือนมี.ค.2563 ให้พิจารณาโอนหรือเปลี่ยนแปลงเงินจัดสรรไปดำเนินการจัดหาครุภัณฑ์หรือสิ่งก่อสร้างอย่างอื่น ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการระบาดของโรคติดเชื้อโคโรน่า 2019 หรือสถานการณ์ภัยแล้ง เช่น การพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อเตรียมความพร้อมของพื้นที่สำหรับกักเก็บน้ำในฤดูฝนโดยใช้แรงงานจากภาคการเกษตร หรือเปลี่ยนวิธีดำเนินการจากงานจ้างเหมาเป็นงานดำเนินการเองเพื่อสนับสนุนให้เกิดการจ้างงานในพื้นที่ และ ให้หน่วยงานรับงบประมาณพิจารณาทบทวนการจัดหาครุภัณฑ์จากต่างประเทศ มาดำเนินการจัดหาครุภัณฑ์จากผู้ผลิตภายในประเทศ เว้นแต่มีความจำเป็นอย่างแท้จริง

นอกจากนี้ ในส่วนของงบประมาณรายจ่ายงบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นที่สำนักงบประมาณยังไม่ได้จัดสรรให้หน่วยงานรับงบประมาณเห็นสมควรให้ชะลอการดำเนินการไว้ก่อน ประกอบด้วย รายการที่นายกรัฐมนตรีหรือครม.ให้ความเห็นชอบแล้ว และรายการที่มีคำขอของหน่วยรับงบประมาณซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณา อีกทั้ง งบกลางที่ได้จัดสรรให้หน่วยงานไปแล้วกรณีหน่วยงานไม่สามารถดำเนินการก่อหนี้ผูกพันหรือบันทึกใบสั่งซื้อได้ทันภายในวันที่ 10 มี.ค. 2563 เห็นสมควรให้ยกเลิกโครงการ และแจ้งให้สำนักงบประมาณทราบภายใน 13 มี.ค.2563 เพื่อนำเงินส่งคืนและนำไปใช้ในโครงการที่มีความสำคัญเร่งด่วนสำหรับแก้ปัญหาจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 และสถานการณ์ภัยแล้งแทน


อย่างไรก็ตาม กรณีหน่วยงานที่รับงบประมาณมีภารกิจและอำนาจหน้าที่ในการดำเนินการเพื่อบรรเทาผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาและสถานการณ์ภัยแล้งและจำเป็นต้องใช้จ่ายจากงบกลางให้เสนอขอรับการจัดสรร ตอบสำนักงบประมาณได้ภายในวันที่ 13 มี.ค. 2563 ส่วนผลจากการใช้มาตรการนี้จะเป็นวงเงินทั้งสิ้นเท่าใดต้องรอความชัดเจนจะสำนักงบประมาณแจ้งอีกครั้งหนึ่ง