ครม.สั่งคุมเข้มร้านขายแก๊สหุงต้ม ห้ามตั้งในตึกแถว ห้างสรรพสินค้า อาคารแสดงสินค้า



  • พร้อมต้องมีระบบระงับอัคคีภัย
  • ส่วนร้านห้องแถวเดิมต้องได้รับการยินยอมจากห้องข้างเคียง

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)เห็นชอบให้มีการควบคุมธุรกิจร้านขายแก๊สหุงต้มให้มีความปลอดภัยและเป็นไปตามมาตรฐานมากขึ้น โดยได้มีการอนุมัติร่างกฎกระทรวงพลังงาน เกี่ยวกับสถานที่เก็บรักษาก๊าซปิโตรเลียมเหลวประเภท ร้านจำหน่าย ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ เพื่อให้เกิดความเหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพการประกอบกิจการในปัจจุบัน รวมทั้งยังเป็นการดำเนินการให้ไปตามมาตรฐานสากลและแผนแม่บท โดยขั้นตอนต่อจากนี้ก็ให้กระทรวงพลังงานดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปได้

สำหรับสาระสำคัญของร่างกฎกระทรวงนี้ เป็นการกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับที่ตั้ง แผนผัง รูปแบบ และลักษณะของสถานที่เก็บรักษาก๊าซปิโตรเลียมเหลวประเภทร้านจำหน่าย การเก็บรักษาและการจำหน่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว โดยกำหนดให้ห้ามตั้งร้านจ้าหน่ายถังก๊าซหุงต้มในอาคารชุด (ตึกแถว) อาคารสรรพสินค้า อาคารแสดงสินค้า หรือสถานีบริการก๊าซปิโตรเลียมเหลว พร้อมกันนี้ยังกำหนดให้ร้านจำหน่ายที่อยู่ห่างจากอาคารอื่น ไม่เกิน 6 เมตร ให้เก็บรักษาก๊าซปิโตรเลียมเหลวได้ไม่เกิน 2,400 ลิตร ถ้าอยู่ห่างจากอาคารอื่น เกิน 6 เมตรขึ้นไป ให้เก็บรักษาก๊าซปิโตรเลียมเหลวได้ไม่เกิน 12,000 ลิตร

พร้อมกันนี้ตามร่างกฎกระทรวงยังกำหนดให้ร้านจำหน่ายลักษณะที่ 2 คือ ร้านจำหน่ายที่มีการเก็บก๊าซปิโตรเลียมเหลวเกิน 500 ลิตรขึ้นไป จะต้องมีระบบป้องกันและระงับอัคคีภัย แบบกระจายน้ำดับเพลิง หรือ วอเตอร์ สปริงเคิล ที่สามารถฉีดน้ำครอบคลุมบริเวณที่เก็บถังก๊าซหุงต้มหรือกระป๋องก๊าซได้ อีกทั้งยังมีการกำหนดให้ผู้ประกอบกิจการจำหน่ายก๊าซหุงต้มตามกฎหมายฉบับนี้ ต้องมีการควบคุมดูแลไม่ให้มีการถ่ายเทก๊าซปิโตรเลียมเหลวลงในถังก๊าซหุงต้มอีกด้วย เพื่อเป็นการป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น

ขณะเดียวกันร้านจำหน่ายที่ประกอบกิจการอยู่ก่อนที่กฎกระทรวงฉบับนี้มีผลบังคับใช้ ให้ปฏิบัติตามกฎกระทรวงนี้ภายใน 1 ปี นับแต่วันที่มีผลบังคับใช้ และให้ร้านจำหน่ายที่ตั้งอยู่ในตึกแถวที่ประกอบกิจการอยู่ก่อนวันที่กฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้ จะได้รับการยกเว้นไม่ต้องได้รับความยินยอมจากผู้มีกรรมสิทธิ์ในตึกแถวข้างเคียงที่มีผนังร่วมกัน โดยกระทรวงพลังงานจะรับเรื่องนี้ไปออกเป็นบทเฉพาะการภายใต้กฎกระทรวงฉบับนี้ต่อไป