ครม.สัญจรชูแผนเร่งด่วนลงทุน 18,680 ล้านบาท เขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ อ.จะนะ จ.สงขลา



  • พร้อมขับเคลื่อนเขตเศรษฐกิจพิเศษนราธิวาส
  • นายกฯสั่งเดินหน้าการค้าชายแดนไทยมาเลเซีย

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่จังหวัดนราธิวาส (ครม.สัญจร) ได้อนุมัติในหลักการของแผนเร่งด่วนการลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจอำเภอจะนะ จังหวัดสงขลาประกอบด้วย 1.ด้านผังเมือง ในพื้นที่ 3 ตำบล ได้แก่ นาทับ ตลิ่งชัน และสะกอม 2. ด้านโครงข่ายการขนส่งทางน้ำ ได้แก่ โครงการท่าเรือน้ำลึกสงขลา 3. ด้านโครงข่ายการขนส่งทางบก ที่จะมีแผนแม่บทจราจรเชื่อมทางหลวง ทางหลวงชนบท ถนนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 4.ด้านพลังงาน จะมีโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงจากก๊าซธรรมชาติ ชีวมวล แสงอาทิตยและลม เพื่อขับเคลื่อนสู่เป้าประสงค์การพัฒนาให้เป็นเมืองต้นแบบที่ 4

ทั้งนี้ ในภาพรวมโครงการ มีเนื้อที่ 16,753 ไร่ ใช้เงินลงทุน 18,680 ล้านบาท โดยคาดว่าจะก่อให้เกิดการจ้างงานประมาณ 100,000 อัตรา มีกิจกรรม 6 ประเภท ได้แก่ 1.พื้นที่เขตอุตสาหกรรมเกษตรและอุตสาหกรรมเบา 4,253 ไร่2.พื้นที่อุตสาหกรรมหนัก 4,000 ไร่ 3.พื้นที่เขตอุตสาหกรรมผลิตไฟฟ้า 4,000 ไร่ จำนวน 4 โรง กำลังผลิตรวม 3,700 เมกะวัตต์ 4.พื้นที่เขตอุตสาหกรรมต่อเนื่องกับกิจกรรมหลังท่าเรือ จำนวน 2,000 ไร่ 5. พื้นที่เขตอุตสาหกรรมศูนย์รวมและกระจายสินค้า จำนวน 2,000 ไร่ และ 6.พื้นที่ศูนย์บริการเบ็ดเสร็จและแหล่งที่พักอาศัย จำนวน 500 ไร่

ขณะเดียวกัน ครม.ได้เห็นชอบแผนการขับเคลื่อนการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษนราธิวาส ซึ่งเป็นแผนบริหารจัดการที่ดินสำหรับการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษนราธิวาส ให้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.)เป็นหน่วยงานรับผิดชอบจัดซื้อที่ดินเอกชน คือ บริษัทสวนยางไทย จำนวน 1,683 ไร่ ในพื้นที่อำเภอยี่งอ และอำเภอเมืองนราธิวาส ในกรอบวงเงิน 390 ล้านบาท ซึ่งการบริหารจัดการที่ดิน แบ่งเป็น 3 ส่วนได้แก่

ส่วนที่ 1 ให้การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยเช่า 600 ไร่ ในพื้นที่ตำบลละหาร อำเภอยี่งอ เพื่อจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรม ตามอำนาจหน้าที่ของการนิคมแห่งประเทศไทย

ส่วนที่ 2 ให้เอกชนเช่า เนื้อที่รวม 1,003 ไร่ โดยกรมธนารักษ์เปิดประมูลเพื่อสรรหาผู้ลงทุนตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด ส่วนที่ 3 เป็นพื้นที่สำหรับใช้ประโยชน์ของทางราชการในพื้นที่ตำบลละหาร อำเภอยี่งอ พื้นที่รวม 79 ไร่ เช่นสร้างศูนย์อบรมพัฒนาทักษะแรงงานเพื่อรองรับนิคมอุตสาหกรรมและการลงทุนและการพัฒนาและส่งเสริมนักธุรกิจรุ่นใหม่ยุค 4.0

นอกจากนี้ นายกฯสั่งการเร่งเดินหน้าพัฒนาด่านชายแดนไทย-มาเลเซีย ซึ่งมีอยู่ 9ด่าน มีมูลค่าการค้าชายแดนถึง570,000 ล้านบาท จึงให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการปักปันเขตแดนและเจรจากับประเทศเพื่อนให้ได้ข้อยุตินายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ ได้รายงานครม.ว่า วันที่15-16ก.พ.นี้ จะมีการประชุมร่วมกับภาคเอกชนทุกฝ่ายเพื่อหารือแนวทางแก้ปัญหาการค้าชายแดนไทย-มาเลเซีย ซึ่งรวมถึงการพบปะกับกลุ่มธุรกิจมุสลิมในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ด้วย มากไปกว่านั้นจะพบกับรมต.พาณิชย์ของมาเลเซีย และ จัดการพูดคุยระหว่างผู้ประกอบการไทยและนักธุรกิจรุ่นใหม่มาเลเซีย