คมนาคมเร่งแก้ปัญหาจุดตัดทางลักผ่านรถไฟ 35 แห่งทั่วไทย



  • คมนาคม เผยข้อมูลจุดตัดรถไฟกับถนนที่เกิดอุบัติเหตุซ้ำซาก 35 แห่งทั่วไทย
  • “ศักดิ์สยาม”สั่งด่วน!หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง “รถไฟ-กรมราง-ขนส่งทางบก”สำรวจจุดตัดอันตรายทั่วประเทศว่ามีเท่าไหร่แน่!
  • โยนขนส่งจัดงบกองทุนเพื่อความปลอดภัยทางถนน 29.5 ล้าน ศึกษาแนวทางแก้ปัญหาเร่งด่วนคาดแล้วเสร็จต้นปี 65

นายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน รองปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงกรณีการเกิดอุบัติเหตุขบวนรถไฟชนกับรถทัวร์กฐินที่ จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ 11 ต.ค.63 ที่ผ่านมาว่า ในเบื้องต้นกระทรวงคมนาคมได้สั่งให้ การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)เร่งเยียวยาผู้ประสบเหตุอย่างเต็มที่ โดยได้รับรายงานว่า ขณะนี้มียอดเสียชีวิตรวม 19 ราย บาดเจ็บ 44 ราย ส่วนการตรวจสอบเยียวยาตามกฎหมายและการประกันภัยนั้น พบว่ารถบัสที่ประสบเหตุ นั้น ภาษีสิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย. 2563 ขณะนี้ อยู่ระหว่างทำเรื่องการโอนรถ ส่วนการทำประกันภัยภาคบังคับนั้นได้มีการทำประกันกับบริษัท อาคเนย์ ประกันภัย ซึ่งผู้เสียชีวิตจะได้รับเงินชดเชยตามกรมธรรม์คนละ 500,000 บาท /คน

ส่วนคนที่ได้รับบาดเจ็บจะได้รับเงินชดเชยคนละ 80,000 บาท นอกจากนั้นรถคันดังกล่าวยังมีประกันภัยภาคสมัครใจ ประเภท 3 กับ บริษัท สินมั่นคงประกันภัย ซึ่งจะให้ความคุ้มครองผู้เสียชีวิตอีกคนละ 500,000 บาท ทั้งนี้สินไหมทดแทนรวมจะไม่เกิน 10 ล้านบาท ส่วนความเสียหายของรถไฟพบว่า หัวรถจักรได้รับความเสียหายที่กระจกหน้าแตกร้าว ด้านข้างรถจักรมีรอย และมีตู้สินค้าคอนเทนเนอร์ได้รับความเสียหาย 5 ตู้ ฉีกขาด 1 ตู้ และบุบ 5 ตู้

นายพิศักดิ์ กล่าวต่ออีกว่า สำหรับแนวทางในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุบริเวณจุดตัดรถไฟ กระทรวงคมนาคม ได้ร่วมประชุมหารือ เพื่อติดตามสถานการณ์ และร่วมกันพิจารณาขั้นตอน/มาตรการเชิงป้องกัน และการดำเนินการแก้ไขปัญหา โดยแบ่งเป็น ระยะเร่งด่วน ซึ่ง รฟท. จะเร่งดำเนินการปรับแก้ไขสัญญาณเตือน บริเวณจุดเกิดเหตุให้พร้อมใช้งานภายใน 7 วัน

นอกจากนี้ รฟท.จะเสนอคณะอนุกรรมการกลั่นกรองและอนุญาตแก้ไขปัญหาจุดตัดทางรถไฟระดับจังหวัด เพื่อเร่งรัดพิจารณาติดตั้งเครื่องกั้นอัตโนมัติ ก่อนเสนอคณะกรรมการฯ โดยมีตนเป็นประธาน เพื่อพิจารณาอนุญาตชั่วคราว และดำเนินการติดตั้งในจุดเกิดเหตุดังกล่าวอย่างเร่งด่วน ทั้งนี้ จะใช้งบประมาณจากกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน (กปถ.) มาดำเนินการ ซึ่งที่ผ่านมาการติดตั้งเครื่องกั้นอัตโนมัติ จะใช้งบประมาณจุดละประมาณ 4-5 ล้านบาท

นายพิศักดิ์ กล่าวว่า นอกจากนั้นนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ยังได้มีข้อสั่งการให้ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ไปสำรวจไปดำเนินการสำรวจ และตรวจสอบจุดตัดทางลักผ่านในแนวเส้นทางรถไฟทางคู่และรถไฟทางสาม ที่เกิดอุบัติเหตุซ้าซ้อนที่ถือว่า มีความเสี่ยงสูง และประสานหน่วยงานเจ้าของถนนทางผ่าน ก่อนดำเนินการติดตั้งเครื่องกั้นอัตโนมัติโดยเร่งด่วนเป็นการชั่วคราว รวมถึงตรวจสอบจุดตัดทางลักผ่านที่มีอยู่ในปัจจุบัน พร้อมทั้งประสานหน่วยงานเจ้าของถนนทางผ่าน เพื่อพิจารณาจุดตัดที่จะต้องติดตั้งเครื่องกั้นทางรถไฟอัตโนมัติ ส่วนทางลักผ่านขนาดเล็กหากพิจารณาว่าจะต้องดำเนินการปิด ให้ไปรวมจุดตัดทางรถไฟโดยก่อสร้างถนนเลียบทางรถไฟ (Collector Road) เพื่อข้ามทางบริเวณจุดที่ปลอดภัยแทน


ทั้งนี้ ได้มอบหมาย ให้ ขร. ไปดำเนินการศึกษา เพื่อลดอุบัติเหตุจุดตัดทางถนนและทางรถไฟ โดยใช้งบประมาณสนับสนุนจากกองทุน กปถ.ในปี 2564-2565 วงเงิน 29.5 ล้านบาท ศึกษาและออกแบบจุดตัดรถไฟที่เกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน (Dark Spot) ในระหว่างปี 2558-2562 ที่ต้องเร่งดำเนินการแก้ไขจำนวน 35 แห่ง โดยคาดว่าจะได้รายละเอียดผลการศึกษาเบื้องต้นภายใน 6 เดือน และได้ข้อสรุปทั้งหมดภายในต้นปี 2565

นายพิศักดิ์ กล่าวอีกว่า จากข้อมูลสถิติ พบว่าปัจจุบันมีจุดตัดทั่วประเทศทั้งสิ้น 2,684 แห่ง แบ่งเป็นจุดตัดต่างระดับ 406 แห่ง เสมอระดับ 2,278 แห่ง โดยจุดตัดเสมอระดับท่ีได้รับอนุญาตมีจานวน 1,657 แห่ง มีเครื่องกั้นแล้ว 1,450 แห่ง มีไฟกระพริบและป้ายสัญญาณเตือน 207 แห่ง และจุดตัดเสมอระดับประเภททางลักผ่าน จำนวน 621 แห่ง ซึ่งทั้ง 621 แห่งส่วนมากเป็นจุดตัดที่อยู๋ในความรับผิดชอบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ส่วนทางลักผ่านที่เคยอยู่ในความรับผิดชอบของ กรมทางหลวง(ทล.) และ กรมทางหลวงชนบท(ทช.)นั้น ส่วนมากได้มีการปรับให้เป็นทางข้าม หรือ อุโมงค์ลอดทางรถไฟ หมดแล้ว

ขณะที่จุดตัดทางรถไฟที่เกิดอุบัติเหตุซ้ำๆ ในปี 2558-2562 มีทั้งหมด 35 แห่ง โดยจุดที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยๆ ได้แก่ จุดทางลักผ่านบริเวณแก่งคอย-บ้านช่องใต้, ทางลักผ่านชุมทางหาดใหญ่-คลองแงะ, หนองปลาดุก-สุพรรณบุรี, บ้านพะเนา-ชุมทางถนนจิระ และสารภี-ป่าเส้า ซึ่งจะมีทั้งจุดลักผ่าน จุดที่ไม่มีเครื่องกั้น และจุดที่มีเครื่องกั้น

สำหรับโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ของ รฟท. ที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง และที่จะดำเนินการในอนาคตนั้น ยืนยันว่า จะมีการดำเนินการติดตั้งรั้วกั้นสองข้างทางรถไฟ (Fencing) พร้อมทั้งแก้ไขปัญหาจุดตัดทางรถไฟเสมอระดับให้เป็นจุดตัดทางรถไฟต่างระดับทั้งหมด สาหรับกรณีรถไฟทางคู่และทางสายใหม่ที่อยู่ในแนวเส้นทางเดียวกับทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) จะดำเนินการบูรณาการภายใต้แผนแม่บทมอเตอร์เวย์-รถไฟทางคู่ (MR-MAP)