คมนาคมเร่งเดินหน้าสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารฝั่งตะวันออกสนามบินสุวรรณภูมิ

คมนาคมไฟเขียวขยายสนามบินสุวรรณภูมิ สั่ง ทอท.เดินหน้าสร้างส่วนต่อขยายอาคารฝั่งตะวันออก ด้าน ทอท.เร่งปรับแบบก่อนเสนอ ครม.ต้นปี 66 ก่อนลงเสาเข็มสร้างในเดือน ก.ค. 66 สร้างเสร็จเปิดให้บริการได้ภายในเดือน ธ.ค.68  มั่นใจรองรับปริมาณผู้โดยสารได้ 15 ล้านคนต่อปี ด้าน “ศักดิ์สยาม”สั่งเช็คสัญญาร่วมทุนสนามบินอู่ตะเภาให้รอบคอบ หวั่นเป็นข้ออ้างเอกชนได้รับผลกระทบจากการขยาย”สุวรรณภูมิ-ดอนเมือง”

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการพิจารณาแนวทางการเพิ่มขีดความสามารถของอาคารผู้โดยสารสนามบินสุวรรณภูมิ ที่มี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน
ว่า ว่า ที่ประชุมได้รับทราบถึงแนวทางความคืบหน้าการปรับแบบอาคารผู้โดยสารส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันออก (East Expansion) วงเงิน 7,830 ล้านบาท ที่ ทอท. ต้องปรับเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทางการบินในปัจจุบัน โดยการปรับแก้ไขแบบจะใช้เวลา 7 เดือน แล้วเสร็จประมาณเดือน ธ.ค.65 ก่อนที่จะมีการนำเสนอคณะกรรมการ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) หรือ ทอท. ก่อนนำเสนอ ครม. พิจารณาเห็นชอบช่วงเดือน ม.ค.-มี.ค.66

และคาดว่าจะดำเนินการจัดหาผู้รับจ้างได้ประมาณเดือน ช่วง เม.ย.66-ก.ค.66 ก่อนที่จะมีการก่อสร้างได้ในปี 66 โดยใช้ระยะเวลา 29 เดือน สร้างแล้วเสร็จภายในเดือน ธ.ค.68 รองรับผู้โดยสารได้ 15 ล้านคนต่อปี ซึ่งการขยายขีดความสามารถดังกล่าวจะทำให้สนามบินสุวรรณภูมิมีความพร้อมรองรับผู้โดยสารที่คาดว่าจะกลับมาในระดับประมาณ 65 ล้านคนต่อปี เท่ากับช่วงก่อนเกิดโรคโควิด 19 ได้ในปี 68

นอกจากนั้นที่ประชุมยังได้มอบหมายให้ ทอท. ไปพิจารณาตรวจสอบข้อสัญญาและเงื่อนไขการร่วมลงทุนโครงการสนามบินอู่ตะเภา ให้ชัดเจนว่า การพัฒนาเพื่อเพิ่มขีดความสามารถสนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมือง ของ ทอท. มีลักษณะส่งผลกระทบต่อการประกอบการหรือการดำเนินโครงการฯ และวัตถุประสงค์และเป้าหมายของโครงการสนามบินอู่ตะเภาอันเป็นการกระทำที่ผิดต่อสัญญาร่วมลงทุนตามข้อใดหรือไม่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดข้อพิพาทและฟ้องร้องต่อรัฐได้ และให้กระทรวงคมนาคมมีหนังสือแจ้งยืนยันผลการพิจารณาไปให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ทราบด้วย

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า ทอท.ยังได้รายงานในที่ประชุมถึงกรณีที่ให้มีการศึกษาความจำเป็นของการขยายขีดความสามารถสนามบินสุวรรณภูมิ และได้ให้ ทอท.ไปว่าจ้าง องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization : ICAO) หรือ ไอเคโอ เพื่อศึกษาแนวทางการเพิ่มขีดความสามารถของอาคารผู้โดยสารสนามบินสุวรรณภูมิ นั้น ล่าสุดทาง ทอท. รายงานว่า ขั้นตอนขณะนี้ ทอท. อยู่ระหว่างหารือร่วมกับสำนักงานอัยการสูงสุดเพื่อพิจารณาร่างข้อตกลง (Agreement) สำหรับการจ้าง ไอเคโอเพื่อศึกษาและให้ได้ข้อสรุปแนวทางการดำเนินงานตามกฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้อง ก่อนลงนามในสัญญาจ้าง โดยคาดว่าสำนักงานอัยการสูงสุดจะพิจารณาร่างข้อตกลงแล้วเสร็จภายในเดือน ส.ค. 65

ทั้งนี้หากผลศึกษาของไอเคโอดังกล่าวแล้วเสร็จทางบอร์ด ทอท.จะได้นำข้อมูลมาประกอบการพิจารณาร่วมกับผลการศึกษาของสมาคมการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (International Air Transport Association : IATA) ซึ่งศึกษาแล้วเสร็จเมื่อเดือน ส.ค. 64