คมนาคมเคลียร์พื้นที่ไฮสปีด 3 สนามบินจบใน ก.ย.64



คมนาคมเดินหน้าเร่งรัดส่งมอบพื้นที่สร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน ย้ำ!ให้ทุกหน่วยงานเร่งเวนคืนที่ดิน-รื้อย้ายสาธารณูปโภคภายในพื้นที่ก่อสร้างช่วงสุวรรณภูมิ – อู่ตะเภา ให้แล้วเสร็จ ภายในเดือนกันยายน นี้

นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะทำงานเร่งรัดการส่งมอบพื้นที่และการรื้อย้ายสาธารณูปโภค ในโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบินว่า ตามที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) เพื่อติดตามความก้าวหน้านั้น โดยขณะนี้ทางการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้เตรียมการส่งมอบพื้นที่ในช่วงสนามบินสุวรรณภูมิถึงสนามบินอู่ตะเภาให้กับเอกชนคู่สัญญา ระยะทาง 170 กิโลเมตร ซึ่งเป็นพื้นที่โครงการประมาณ 5,521 ไร่ มีความก้าวหน้ากว่า 88 % ดังนั้นจึงได้สั่งการให้เร่งรัด แล้วเสร็จตามกำหนด เวลาที่ตั้งไว้ คาดว่าจะสามารถส่งมอบพื้นที่ช่วงสุวรรณภูมิ – อู่ตะเภา ได้ทั้งหมดในเดือนกันยายน 64 ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ในแผนฯ ซึ่งถือเป็นการส่งมอบตามสัญญาในเดือนตุลาคม 64

ทั้งนี้ได้มีรายละเอียดเนื้องานที่สำคัญประกอบด้วย 1 . การเวนคืนที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ ได้ทำสัญญาซื้อขายแล้ว 634 สัญญา มูลค่า 3,599 ล้านบาท จากจำนวน 737 สัญญา มูลค่า 4,121 ล้านบาท 2. การโยกย้ายผู้บุกรุก ที่กีดขวางการก่อสร้างช่วงสุวรรณภูมิถึงอู่ตะเภา ได้ดำเนินการโยกย้ายแล้วเสร็จ 100 % และ 3. งานรื้อย้ายสาธารณูปโภค โดยหน่วยงานเจ้าของสาธารณูปโภคได้ดำเนินการรื้อย้ายสาธารณูโภคช่วงสุวรรณภูมิถึงอู่ตะเภาแล้วเสร็จ 257 จุด และอยู่ระหว่างการรื้อย้าย 396 จุด ซึ่งทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งดำเนินงาน เพื่อให้แล้วเสร็จทันตามเงื่อนเวลาที่กำหนดไว้ คือภายในเดือนกันยายน 24

ส่วนความคืบหน้าของเอกชนคู่สัญญาปัจจุบันได้ดำเนินการออกแบบและเริ่มงานเตรียมการก่อสร้าง เช่น งานปรับพื้นที่ งานก่อสร้างถนน งานก่อสร้างสะพานชั่วคราว งานก่อสร้างสำนักงานสนาม บ้านพักพนักงาน และงานเจาะสำรวจดิน เป็นต้น นอกจากนั้นในส่วนการเข้าบริหารแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ปัจจุบัน ทางบริษัทเอกชนคู่สัญญา ได้นำผู้เชี่ยวชาญลงพื้นที่ตรวจสอบสถานะด้านเทคนิคแล้วเสร็จ และอยู่ระหว่างออกแบบเพื่อปรับปรุงการให้บริการ และเตรียมการฝึกอบรมบุคลากร นอกจากนี้ ยังเตรียมการปรับปรุงการให้บริการของสถานี ปรับปรุงการเดินรถไฟให้ทันสมัย ตรงเวลา และเพียงพอต่อความต้องการของผู้ใช้บริการ เพื่อให้ผู้โดยสารได้รับบริการที่ดี มีความสะดวกสบาย โดยเอกชนคู่สัญญามีกำหนดเข้าบริหารโครงการได้ในช่วงเดือนตุลาคม 64