คมนาคมคิดสารพัดวิธีลดปัญหาจราจรทั่วกรุง



สนข.จ่อเสนอคมนาคมให้ศึกษาผลกระทบจราจรหรือ TIA ก่อนให้สร้างโครงการขนาดใหญ่ หวังแก้ปัญหาจราจรในอนาคต คาดเสนอ คจร. ภายใน 3-6 เดือน มั่นใจหากสำเร็จจะแก้ปัญหาจราจรที่ได้รับผลกระทบจากงานก่อสร้างระยะยาว

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร หรือ สนข.ว่า ทาง สนข.ได้เสนอให้มีการศึกษาการจัดทำมาตรฐานการวิเคราะห์ผลกระทบด้านการจราจร (TIA)ก่อนที่จะมีการก่อสร้างในโครงการขนาดใหญ่ทั้งของกระทรวงคมนาคม และหน่วยงานอื่นๆ จากเดิม TIA จะเป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณาของการรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) อยู่แล้ว โดยการศึกษา TIA นั้น เพื่อให้การดำเนินการโครงการต่างๆ ไม่สร้างปัญหาการจราจรในอนาคต ซึ่งการศึกษา TIA จะต้องมีการกำหนดกรอบเวลาให้ชัดเจน พร้อมทั้งมีข้อมูลทางวิชาการ และตัวแบบมาประกอบการดำเนินการ โดยยืนยันว่า TIA จะไม่ทำให้โครงการล่าช้า แต่อาจจะทำให้เร็วขึ้นกว่าเดิมด้วย อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะเสนอให้คณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) พิจารณา TIA ภายใน 3-6 เดือน ก่อนที่จะสรุปแนวทาง เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติต่อไป

ด้านนายชยธรรม์ พรหมศร ผู้อำนวยการ สนข. กล่าวว่า สนข. ได้ศึกษาเรื่องดังกล่าวมา 1 ปีกว่าแล้ว สำหรับแนวทางของ TIA นั้น ไม่ใช่เป็นการห้ามสร้าง หรือสร้างเงื่อนไขเพิ่มขึ้น แต่จะเป็นการช่วยกันพิจารณาการดำเนินการ เนื่องจากในปัจจุบัน กระทรวงคมนาคมมีนโยบายชัดเจนที่ต้องการให้ประชาชนใช้รถยนต์ส่วนบุคคลให้น้อยลง และหันมาใช้การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะให้มีความสะดวกสบายมากขึ้น ด้วยการสร้างทางเดินลอยฟ้า (สกายวอร์ก) เพิ่มเติม เพื่อเชื่อมอาคาร และลดการใช้รถในการเข้าออกอาคาร

ชยธรรม์ พรหมศร ผู้อำนวยการ สนข.



ทั้งนี้ที่ผ่านมาทาง สนข. ได้ดำเนินการอยู่แล้ว แต่การเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมดังกล่าว เพื่อจัดระเบียบ วิธีการที่จะให้องค์ความรู้ TIA ผ่านโครงการและหน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบ ซึ่งจะดำเนินการควบคู่ไปกับเรื่องจัดทำ EIA หากกฎหมาย EIA ครอบคลุมไม่ถึงอาจต้องพิจารณา TIA ด้วย โดยหลังจากนี้จะต้องรอการพิจารณาของ คจร. ก่อนที่จะทราบถึงทิศทางและนโยบายดำเนินการการ

อย่างไรก็ตามการจัดทำ TIA นั้น จะไม่ซ้ำซ้อนกับ EIA เพราะ TIA เป็นการปิดช่องว่าง เนื่องจากกฎหมายปัจจุบันมีหลายๆ โครงการที่เป็นโครงการขนาดใหญ่ที่ไม่ศึกษาเรื่องนี้ และไม่อยู่ในข้อกฎหมาย ทั้งนี้เมื่อก่อน TIA เป็นส่วนหนึ่งเล็กๆ อยู่ใน EIA ซึ่งจะมีผู้เชี่ยวชาญรับผิดชอบอยู่ ขณะเดียวกันจะมี สนข. เป็นหน่วยงานที่คอยแนะนำให้ โดยโครงการคมนาคมจะต้องผ่านกระบวนการ TIA นี้ด้วย ซึ่งหลายๆ โครงการมีการทำงานอยู่แล้ว แต่ทำให้ชัดเจนและเป็นระเบียบมากขึ้น เพื่อให้ความสำคัญของปัญหาการจราจร นอกจากนี้ การจัดทำ TIA ต้องไม่เป็นการสร้างภาระเงื่อนไขในเรื่องเวลาและความไม่ชัดเจนในระเบียบดำเนินงาน