คปภ.ออก 7 มาตรการผ่อนผันบริษัทประกันที่มีเคลมประกันโควิด หวังช่วยเสริมสภาพคล่อง

วันที่ 23 ก.ย.2564 นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (บอร์ด คปภ.) ครั้งที่ 9/2564 เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2564 ได้มีมติเห็นชอบร่างประกาศคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เรื่อง มาตรการสำหรับบริษัทประกันวินาศภัยที่มีค่าสินไหมทดแทน COVID-19 ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) พ.ศ. 2564 และประธานบอร์ด คปภ. ได้ลงนามประกาศ คปภ. ดังกล่าวแล้ว ซึ่งจะมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 2564

ทั้งนี้ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ในปัจจุบันที่มีความรุนแรงทำให้มีผู้ป่วยติดเชื้อจำนวนมาก ส่งผลให้บริษัทประกันวินาศภัยจำนวนหนึ่งต้องจ่ายค่าสินไหมทดแทนจากกรณีดังกล่าวมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ดังนั้น เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบจากปัญหาสภาพคล่องที่อาจเกิดขึ้นกับบริษัท รวมทั้งเพื่อให้บริษัทมีความยืดหยุ่นในการปรับฐานะการเงินให้เข้าสู่ภาวะปกติ และสามารถชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้กับผู้เอาประกันภัยได้อย่างรวดเร็ว คปภ. จึงได้ออกมาตรการเพื่อเสริมสร้างสภาพคล่องในการดำเนินงานให้กับบริษัทประกันวินาศภัย 7 มาตรการ ดังนี้

1.ยกเว้นการคำนวณเงินกองทุนสำหรับความเสี่ยงด้านการประกันภัยจากการรับประกันภัย COVID-19

2.ให้สามารถนับเงินกู้ยืมด้อยสิทธิ์ตามลักษณะที่กำหนดมาเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ได้

3.ผ่อนผันการดำรงอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ขั้นต่ำ

4.ยกเว้นการนำค่าเผื่อความผันผวนที่เรียกว่า  provision of adverse deviation (PAD) มาคำนวณเงินกองทุน

5.สามารถนำเบี้ยประกันภัยค้างรับที่มีระยะเวลาการค้างชำระไม่เกิน 30 วันมาใช้ในเป็นสินทรัพย์หนุนหลัง

6.สามารถนำเบี้ยประกันภัยค้างรับที่มีระยะเวลาการค้างชำระไม่เกิน 30 วันมาใช้ในการคำนวณเงินสำรอง

7.อนุญาตให้บริษัทมีสัดส่วนของเงินสดและเงินฝากธนาคารที่บริษัทใช้สำหรับการบริหารสภาพคล่องได้เกิน 5%

ทั้งนี้ บริษัทสามารถยื่นคำขอใช้มาตรการผ่อนผันได้ โดยประกาศฯ ได้กำหนดลักษณะของบริษัทประกันวินาศภัยที่สามารถยื่นคำขอใช้มาตรการผ่อนผันไว้ 2 ข้อ คือ

1.ต้องมีค่าสินไหมทดแทน COVID-19 เป็นจำนวนมากกว่า 500 ล้านบาทก่อนการยื่นขอผ่อนผัน และ

2.มีการประมาณการว่าอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุนของบริษัทในระหว่างวันที่ 30 กันยายน 2564 ถึง 30 มิถุนายน 2565 อาจต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนด

นอกจากนี้ บริษัทจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขต่อไปนี้

1.มีการจ่ายค่าสินไหมทดแทน COVID-19 ไม่น้อยกว่า 75% ของเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับกรมธรรม์ประกันภัย COVID-19 ที่มีการยื่นต่อสำนักงาน คปภ.

2.มีเงินกองทุน และ/หรือสินทรัพย์สภาพคล่องเพียงพอสำหรับการจ่ายค่าสินไหมทดแทน COVID-19

ทั้งนี้บริษัทที่เข้าเกณฑ์ที่กำหนดข้างต้นสามารถยื่นคำขอผ่อนผันต่อนายทะเบียน โดยจะต้องจัดทำแผนการดำเนินการแก้ไขฐานะการเงินให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2565 และต้องรายงานความคืบหน้าการดำเนินการตามแผนต่อนายทะเบียนทุก 15 วัน และต้องเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับความเพียงพอของเงินกองทุน กระบวนการในการบริหารเงินกองทุนของบริษัท และการประเมินความเพียงพอของเงินกองทุน รวมถึงการประเมินหนี้สินจากสัญญาประกันภัย โดยเปรียบเทียบข้อมูลก่อนและหลังใช้มาตรการผ่อนผันตามประกาศนี้ด้วย

 โดยสำนักงาน คปภ. ได้แต่งตั้งคณะกรรมการและคณะทำงานรวม 3 ชุด เพื่อกำกับดูแล กลั่นกรองพิจารณาคำขอ และตรวจสอบติดตามการดำเนินงานของบริษัทที่ได้รับการผ่อนผัน ทั้งนี้ หากบริษัทไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนด นายทะเบียนมีอำนาจยกเลิกมาตรการผ่อนผันได้ทันที