
- “เราชนะ” เติมเงินลงระบบเศรษฐกิจแล้วกว่า 38,524 ล้านบาท
- มีผู้ให้บริการรายย่อยเข้าร่วมโครงการฯ มากกว่า 1.01 ล้านกิจการ
นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าหลังจากเปิดจุดรับลงทะเบียนโครงการเราชนะ (โครงการฯ) เพิ่มเติมวันแรก รวมมีจุดรับลงทะเบียนไม่น้อยกว่า 3,500 แห่ง เพื่ออำนวยความสะดวกแก่กลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ เช่น ไม่สามารถเข้าถึงระบบอินเทอร์เน็ต ไม่มีสมาร์ทโฟนทำให้ไม่สามารถใช้งานแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ได้ ผู้ที่อยู่ในภาวะพึ่งพิง (ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ทุพพลภาพ ผู้ป่วยติดเตียงที่ไม่สามารถเดินทางไปลงทะเบียนเองหรือเดินทางไปใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์ที่ได้รับผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ได้) โดยขณะนี้มีประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษได้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ แล้ว มากกว่า 651,632 คน
ทั้งนี้กลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษที่ลงทะเบียนระหว่างวันที่ 15-21 ก.พ. 2564 จะทราบผลการคัดกรองคุณสมบัติในวันที่ 4 มี.ค.2564 จำนวน 4,000 บาท และจะได้รับวงเงินสิทธิ์ครั้งแรกในวันที่ 5 มี.ค.2564 จำนวน 6,000 บาท และกลุ่มผู้ที่ลงทะเบียนระหว่างวันที่ 22 ก.พ.-5 มี.ค. 2564 จะทราบผลการคัดกรองคุณสมบัติในวันที่ 15 มี.ค.2564 และจะได้รับวงเงินสิทธิ์ครั้งแรกในวันที่ 19 มี.ค. 2564
“กระทรวงการคลังได้ปิดรับลงทะเบียนโครงการฯ ของกลุ่มประชาชนทั่วไปทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com ตั้งแต่วันที่ 12 ก.พ.2564 ที่ผ่านมาแล้ว สำหรับปุ่ม “ลงทะเบียนกลุ่มพิเศษ” ที่ปรากฏบนหน้าเว็บไซต์ดังกล่าว เปิดขึ้นเพื่อให้เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานข้างต้นอำนวยความสะดวกในการลงทะเบียนให้กับกลุ่มผู้ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ”
ส่วนความคืบหน้าของการเข้าร่วมโครงการฯ ณ วันที่ 22 ก.พ.2564 สำหรับประชาชนกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 13.7 ล้านคน ได้มีการใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ. 2564 จนถึงปัจจุบันไปแล้ว จำนวนมากกว่า 22,761.2 ล้านบาท
สำหรับประชาชนกลุ่มที่อยู่ในระบบฐานข้อมูลของแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ในโครงการเราเที่ยวด้วยกันและคนละครึ่ง และกลุ่มประชาชนทั่วไปที่ลงทะเบียนทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com เป็นผู้ที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติเบื้องต้นและยืนยันการใช้สิทธิ์ร่วมโครงการฯ ผ่านแถบ (Banner) โครงการ “เราชนะ” ในแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” แล้ว จำนวนมากกว่า 14.4 ล้านคน ได้มีการใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 18 ก.พ.จนถึงปัจจุบันไปแล้ว จำนวนมากกว่า 15,762.4 ล้านบาท จึงมีผู้ใช้สิทธิ์โครงการฯ รวมแล้วมากกว่า 28.1 ล้านคน คิดเป็นมูลค่าการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทยไปแล้วมากกว่า 38,524.6 ล้านบาท ผ่านผู้ประกอบการร้านค้าและผู้ให้บริการรายย่อยที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ มากกว่า 1.01 ล้านกิจการ










