

- เปิดโอกาสให้ปรับโครงสร้างหนี้ของตัวเอง
- ต้องเป็นลูกหนี้สินเชื่อเคหะและไม่เป็นหนี้เสีย
- ลูกหนี้สินเชื่อที่ไม่มีหลักประกันของธนาคาร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ธนาคารออมสิน” ออกโครงการ “ปรับปรุงโครงสร้างหนี้สำหรับลูกหนี้รายย่อย” ด้วยวิธีการรวมหนี้ช่วยลดภาระสำหรับ “ลูกหนี้” ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ “โควิด-19” โดยเปิดโอกาสให้ลูกหนี้รายย่อย สามารถปรับโครงสร้างหนี้ของตัวเองได้ผ่านกระบวนการต่างๆ ที่ธนาคารกำหนด ซึ่งจะช่วยแบ่งเบาภาระหนี้โดยเฉพาะในช่วงที่สถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย
โดยผู้ที่ต้องการเข้าร่วมโครงการจะต้องมีคุณสมบัติตามที่โครงการการผ่อนปรนชำระหนี้หลังสิ้นสุดมาตรการพักชำระหนี้ ของธนาคารออมสิน กำหนด ดังนี้
คุณสมบัติของผู้ขอ “ปรับปรุงโครงสร้างหนี้” กับออมสิน ได้แก่ 1.เป็นลูกหนี้สินเชื่อเคหะของธนาคารออมสิน ที่ ณ วันที่ 1 มีนาคม 2563 ไม่ถูกจัดชั้นเป็นหนี้ด้อยคุณภาพ (NPL) หรือไม่ค้างชำระเงินต้นหรือดอกเบี้ยเกินกว่า 90 วัน หรือ 3 เดือน นับแต่วันครบกำหนดชำระ
2.เป็นลูกหนี้สินเชื่อรายย่อยที่ไม่มีหลักประกันของธนาคารออมสิน เช่น บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด

ตัวอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อมีการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ในโครงการนี้
เดิม ลูกค้ากู้สินเชื่อเคหะจากธนาคารออมสิน 4 ล้านบาท และมีราคาประเมินหลักทรัพย์ 4 ล้านบาท
ปัจจุบัน ภาระหนี้สินเชื่อเคหะคงเหลือ 3.5 ล้านบาท และมีภาระหนี้บัตรเครดิตธนาคารออมสินค้างชำระ 200,000 บาท
ส่วนต่าง ของมูลค่าหลักประกัน (ราคาประเมินหลักทรัพย์) กับภาระหนี้สินเชื่อเคหะจึงเท่ากับ 500,000 บาท เมื่อลูกค้ามีหนี้บัตรเครดิตธนาคารออมสินค้างชำระ 200,000 บาท ซึ่งไม่เกินส่วนต่างของมูลค่าหลักประกัน 500,000 บาท จึงสามารถเข้าร่วมมาตรการ debt consolidation ได้ โดยจะมีสิทธิได้รับการลดอัตราดอกเบี้ยของหนี้บัตรเครดิตเป็นไม่เกิน MRR
วิธีการ “ลงทะเบียน ปรับปรุงโครงสร้างหนี้สำหรับลูกหนี้รายย่อย” ของธนาคารออมสิน
ลูกค้าที่มีคุณสมบัติและมีความประสงค์ตามเงื่อนไขของโครงการ สามารถคลิกเข้าสู่ ระบบลงทะเบียน ผ่อนปรนชำระหนี้หลังสิ้นสุดมาตรการพักชำระหนี้ของธนาคารออมสิน ที่ลิงก์ https://ln15.gsb.or.th/WEB-LNHM/
จากนั้นกรอกข้อมูลสินเชื่อ และข้อมูลส่วนตัวต่างๆ ตามจริงก่อนเลือกปุ่ม “ลงทะเบียน” เพื่อเข้าสู่กระบวนการต่อไป

ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม หรือมีข้อสงสัย สามารถสอบถามได้ที่ ศูนย์บริการข้อมูลข่าวสารของธนาคารออมสิน หมายเลข 1115