

นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์ระหว่างวันที่ 11-17 เม.ย. 2566 คาดว่าจะมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาหรือเดินทางท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ด้วยระบบขนส่งสาธารณะ ในกรุงเทพฯ และระหว่างจังหวัดรวม 7.5 ล้านคนต่อเที่ยว ดังนั้นจะมีปริมาณยานพาหนะบนท้องถนนที่คับคั่งและมีโอกาสจะเกิดอุบัติเหตุทางถนนเพิ่มสูงขึ้น ขบ.จึงร่วมกับสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทยและภาคีเครือข่าย ขอความร่วมมือผู้ประกอบการขนส่งสินค้าด้วยรถบรรทุกร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการป้องกันและลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนนด้วยการหลีกเลี่ยงการขนส่งสินค้า และงดการใช้รถที่ไม่มีการบรรทุกสินค้า (รถเปล่า) รวมทั้งหลีกเลี่ยงการจอดรถทิ้งไว้บนไหล่ทาง ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 11-17 เม.ย. 2566 เพื่อลดโอกาสเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุทางถนนและลดปัญหาการจราจร ในกรณีที่มีความจำเป็นต้องใช้รถ ให้เดินรถได้เฉพาะช่องเดินรถซ้ายสุดเท่านั้น
โดยปฏิบัติตามข้อแนะนำดังนี้
1. กำชับผู้ขับรถให้ขับด้วยความระมัดระวัง ใช้ความเร็วตามกฎหมายกำหนด ให้ผู้ขับรถพักผ่อนอย่างเพียงพอ มีสภาพร่างกายพร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างปลอดภัย และไม่ขับรถเกินชั่วโมงทำงานตามที่กฎหมายกำหนด
2. ตรวจสอบสภาพความมั่นคงแข็งแรงของตัวรถและอุปกรณ์ส่วนควบด้านความปลอดภัยของรถบรรทุก/รถลากจูง/รถพ่วง ก่อนใช้งานทุกครั้ง
3. ผู้ขับรถบรรทุกต้องมีปริมาณแอลกอฮอล์ในลมหายใจเป็นศูนย์
4. ผู้ประกอบการขนส่งที่มีการติดตั้งระบบ Global Positioning System (GPS) ในรถของตนเอง ให้ติดตามการใช้ความเร็วของรถบรรทุกอย่างต่อเนื่องผ่าน Application DLT- GPS และแจ้งเตือนผู้ขับรถเมื่อพบว่ามีการใช้ความเร็วเกินกำหนด เพื่อร่วมกันป้องกันอุบัติเหตุ
สำหรับแนวทางปฏิบัติสำหรับผู้ประกอบการขนส่งผู้โดยสารซึ่งได้หารือกับ นายสัญลักข์ ปัญวัฒนลิขิต กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ให้นำรถเข้าตรวจสภาพตามระยะเวลาที่กำหนด ตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของตัวรถและอุปกรณ์ส่วนควบด้านความปลอดภัยก่อนใช้งานทุกครั้ง โดยผู้ประกอบการต้องกำชับ ตรวจสอบ และดูแลความพร้อมของพนักงานขับรถ ให้พักผ่อนให้เพียงพอและมีสภาพร่างกายพร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างปลอดภัย ไม่ใช้สารเสพติด ปริมาณแอลกอฮอล์ในลมหายใจต้องเป็นศูนย์ และไม่ใช้ความเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด