ก.ค.65 ขาดดุลการค้าหนักเฉียด 1.4 แสนล้านบาท



  • หลังโหมนำเข้าน้ำมัน-ทองคำ-วัตถุดิบผลิตสินค้า
  • ตะลึง! นำเข้าอาวุธ ยุทธปัจจัยพุ่งกว่า 2,000%
  • พาณิชย์อัดเพิ่มอีกกว่า 300 กิจกรรม ดันยอดส่งออก

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เปิดเผยถึงสถิติการค้าระหว่างประเทศของไทยว่า เดือนก.ค.65 การส่งออกมีมูลค่า 23,629 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มข 4.3% เทียบเดือนก.ค.64 ขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 17 คิดเป็นเงินบาท 829,028 ล้านบาท เพิ่ม 17% ส่วนการนำเข้า 27,289 ล้านเหรียญฯ เพิ่ม 23.9% คิดเป็นเงินบาท 968,939.9 ล้านบาท เพิ่ม 38.7% ส่งผลให้ขาดดุลการค้า 3,660 ล้านเหรียญฯ คิดเป็นเงินบาท 139,911.1 ล้านบาท ส่วนช่วง 7 เดือน (ม.ค.-ก.ค.) ปี 65 มีมูลค่า 172,814.1 ล้านเหรียญฯ เพิ่ม 11.5% เทียบช่วงเดียวกันปี 64 คิดเป็นเงินบาท 5.77 ล้านล้านบาท เพิ่ม 22.2% การนำเข้า 182,730 ล้านเหรียญฯ เพิ่ม 21.4% คิดเป็นเงินบาท6.39 ล้านล้านบาท เพิ่ม 6.19 ล้านบาท ขาดดุลการค้า 9,916.3 ล้านเหรียญฯ หรือขาดดุล 417,939.1 ล้านล้านบาท  

“สาเหตุที่ขาดดุลการค้าจำนวนมาก มาจากการนำเข้าสินค้าที่มีราคาสูงตามการสูงขึ้นของตลาดโลก เช่น น้ำมัน และทองคำ และหากราคาพลังงานโลกยังสูงอีก ก็ยังมีโอกาสที่จะขาดดุลอีก แต่ก็มีการนำเข้าสินค้าทุนและวัตถุดิบเพื่อนำมาใช้ในการผลิตสินค้า ซึ่งจะส่งผลดีต่อการส่งออกในอนาคต”  

สำหรับกรณีที่ไทยไม่สามารถส่งออกสินค้าบางรายการไปรัสเซีย เช่น ยานยนต์และชิ้นส่วนจากค่ายญี่ปุ่น เพราะญี่ปุ่นใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียนั้น กระทบกับการส่งออกของไทยแน่นอน แต่ได้หาตลาดอื่นทดแทนไว้แล้ว รวมถึงสินค้าอื่นด้วย ส่งผลให้การส่งออกของไทยในภาพรวมไม่ได้รับผลกระทบเลย

นายจุรินทร์ กล่าวต่อถึงปัจจัยบวกที่ช่วยสนับสนุนการส่งออก มาจากความต้องการอาหารจากทั่วโลกยังเติบโตต่อเนื่อง ทำให้สินค้าเกษตร อาหาร ยังส่งออกได้ดี โดยเฉพาะการส่งออกเนื้อสัตว์ปีก, การผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด และการผ่อนคลายประเทศให้มีการท่องเที่ยว ทำให้สินค้าบางส่วน เช่น อัญมณีเครื่องประดับ เครื่องสำอางขยายตัวได้ดีขึ้น, ค่าระวางเรือมีแนวโน้มลดลง ที่สำคัญค่าเงินบาทยังอ่อนค่า ช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันด้านราคาของสินค้าไทยในตลาดโลก    

ส่วนแนวโน้มส่งออกทั้งปี 65 ประเมินว่า เป็นบวกแน่นอน และเกินกว่า 4% ซึ่งเป็นเป้าหมายที่คาดไว้ พร้อมกับได้สั่งการให้ทูตพาณิชย์ทั่วโลก เร่งรัดทำแผนส่งออกทั้งเชิงรุกและเชิงลึก ซึ่งได้จัดส่งแผนดังกล่าวมาแล้ว ประกอบด้วยกิจกรรมที่จะส่งเสริมและผลักดันการส่งออกในช่วงที่เหลือของปีอีก 345 กิจกรรม รวมทั้งหมด 530 กิจกรรม จากเดิมที่จะมีกิจกรรมส่งเสริมการส่งออกในปีนี้เพียง 185 กิจกรรม และตนจะประชุมทูตพาณิชย์ เพื่อเร่งรัดแผนการส่งออกวันที่ 14 ก.ย.นี้ด้วย เพื่อทำให้ตัวเลขการส่งออกปี 2565 ให้ดีที่สุด  

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เดือนก.ค.65 ไทยนำเข้าสินค้าหมวดเชื้อเพลิง สูงถึง 5,705 ล้านเหรียญฯ เพิ่ม 79% จากเดือนก.ค.64 เป็นการนำเข้าน้ำมันดิบ 3,324.5 ล้านเหรียญฯ เพิ่ม 81.4%, น้ำมันสำเร็จรูป 463.1 ล้านเหรียญฯ ลด6.7%, ก๊าซธรรมชาติ 1,365.2 ล้านเหรียญฯ เพิ่ม 214.7%  หมวดสินค้าทุน เช่น โลหะ เครื่องจักรกล เครื่องจักรไฟฟ้า5,475.4 ล้านเหรียญฯ  ลด 1% หมวดสินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป เช่น สัตว์น้ำสด เคมีภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์จากพลาสติก เหล็กและผลิตภัณฑ์ 12,439.2 ล้านเหรียญฯ เพิ่ม 30.2%, หมวดสินค้าอุปโภคบริโภค 2,443.2 ล้านเหรียญฯ ลด 4.6% หมวดยานพาหนะ 937.3 ล้านเหรียญฯ ลด 21.1% และหมวดอาวุธ ยุทธปัจจัย และสินค้าอื่นๆ289.6 ล้านเหรียญฯ เพิ่ม 2,002.8%