วันที่ 6 ก.ย.2564 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. กล่าวว่า แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทยว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 13,988 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 13,527 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 11,561 ราย มาจากการค้นหาเชิงรุก 1,966 ราย และมาจากเรือนจำ 444 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 17 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมยืนยันตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 1,294,522 ราย หายป่วยเพิ่มขึ้น 17,284 ราย ทำให้มียอดหายป่วยสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 1,132,858 ราย อยู่ระหว่างรักษา 148,622 ราย อาการหนัก 4,601 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 1,013 ราย ตัวเลขตรงนี้มีแนวโน้มลดลงเรื่อยๆ ถือเป็นข่าวดี จะได้ใช้ทรัพยากรของโรงพยาบาลน้อยลง
อย่างไรก็ตาม มีรายงานเสียชีวิตเพิ่มขึ้น 187 ราย เป็นชาย 101 ราย หญิง 86 ราย เป็นผู้เสียชีวิตที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 131 ราย มีโรคเรื้อรัง 41 ราย มีเด็กอายุ 13 ปีเสียชีวิต 1 ราย พบว่ามีโรคประจำตัวที่ จ.ตาก เสียชีวิตที่บ้าน 1 ราย อยู่ที่ จ.ระยอง ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 13,042 ราย ส่วนยอดผู้ได้รับวัคซีนของประเทศไทยเมื่อวันที่ 5 ก.ย. มีการฉีดวัคซีนเพิ่มเติม 325,218 โดส รวมยอดฉีดวัคซีนสะสมตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 35,912,894 โดส ถือว่าเราฉีดมาได้ครึ่งทางของเป้าหมายแล้ว แต่ในส่วนของหญิงตั้งครรภ์ยังต่ำอยู่ จึงขอเชิญชวนให้มาฉีด
ทั้งนี้ หากไปดูฉากทัศน์การคาดการณ์ผู้ติดเชื้อที่มีการทำไว้ก่อนหน้านี้จะเห็นว่า มาตรการที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือจากประชาชนระดับหนึ่ง ทำให้สถานการณ์จริงเป็นไปตามคาดการณ์ผู้ติดเชื้อกรณีประชาชนให้ความร่วมมือ 25% และวันนี้ถือว่าต่ำกว่ากราฟผู้ติดเชื้อที่มีการคาดการณ์เอาไว้แล้ว แต่เมื่อมีการผ่อนคลายมาตรการก็ขอให้ประชาชนป้องกันตัวเองให้ดี การ์ดอย่าตก ไม่เช่นนั้นแรงเฉื่อยจะทำให้ช่วงปลายเดือน ก.ย. กับต้นเดือน ต.ค. ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะพุ่งขึ้นกลับมา และหากคุมไม่ดีอาจไปแตะ 3 หมื่นคนต่อวัน ขณะที่ผู้เสียชีวิตในปัจจุบันก็สอดคล้องกับเส้นกราฟที่มีการคาดการณ์กันไว้ในกรณีประชาชนให้ความร่วมมือ 25% แต่เดือน ต.ค.ยอดอาจจะพุ่งได้เช่นกัน
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ขอให้ทุกคนได้ติดตามสถานการณ์จากที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ในช่วงปลายสัปดาห์นี้ หรือ ต้นสัปดาห์หน้า อาจจะเป็นวันศุกร์ที่ 10 ก.ย.นี้ โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะ ผอ.ศบค. จะเป็นประธานการประชุมด้วยตัวเอง เพื่อพิจารณาตัวเลขผู้ติดเชื้อในรอบ 14 วันที่ผ่านมา
“ตนขอย้ำกับทุกคนว่าวันนี้เรากินบุญเก่าของ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา และวันนี้เราจะต้องทำให้ดีที่สุด เพื่อที่จะมีผลดีในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า เพื่อให้กิจการกิจกรรมต่างๆ สามารถปรับมาตรการ หรือที่สื่อเรียกว่า ผ่อนคลายมาตรการ ขอทุกคนการ์ดอย่าตกเข้มงวดในมาตรการต่างๆ โดยเฉพาะมาตรการครอบจักรวาล ทุกคนดูแลป้องกันตัวเอง เพื่อไม่ให้กราฟกลับพุ่งขึ้นไปอีก เพราะในอดีตเราได้เห็นแล้วว่า กราฟดังกล่าวมีติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นไปถึงวันละ 3 หมื่นคน วันนี้เราสามารถทำให้ลดลง และเดินทางกันมาได้ด้วยดีแล้ว”
ทั้งนี้ขอให้ร่วมด้วยช่วยกันทุกคน เพื่อเป็นพลังของประเทศไทยในการขับเคลื่อนสู้กับโควิด-19 และในที่สุดแล้วเราจะอยู่คู่กับโควิด-19 ได้ เพราะขณะนี้ทฤษฎีด้านการแพทย์ไม่ได้หวังว่าจะกำจัดโควิด-19ไปได้ ซึ่งจะเหมือนกับ วัณโรค ไข้หวัดใหญ่ ที่จะต้องอยู่คู่กับโลกนี้ โควิด-19 ก็เช่นเดียวกัน
