

- เสริมการป้องกันโรคโควิด-19
- หลังพม่าเสี่ยงเกิดโควิดระลอก 2
- ยอดผู้ป่วยพุ่งถึงวันละ1, 000 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นับเป็นวิกฤตการณ์โรคระบาดครั้งใหญ่ที่หลายประเทศทั่วโลกกำลังเผชิญ ซึ่งประเทศไทยถือว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่มีมาตรการจัดการกับโรคระบาดได้เป็นอย่างดี แต่ในขณะเดียวกัน ประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกับประเทศไทยอย่างประเทศพม่า ก็กำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่น่าวิตกกังวล เพราะอยู่ในสภาวะเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดการแพร่ระบาดหนักของโรคโควิด-19 เป็นระลอก 2 ได้ เพราะมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ดังนั้นเมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ได้มอบหน้ากากทางการแพทย์ KN95 ให้กับโรงพยาบาลในพื้นที่ชายแดนติดกับประเทศพม่าทั้งหมด 9 โรงพยาบาล เป็นจำนวน 5,500 ชิ้น ได้แก่ โรงพยาบาลพบพระจ.ตาก, โรงพยาบาลอุ้มผาง จ.ตาก, โรงพยาบาลแม่ระมาด จ.ตาก, โรงพยาบาลแม่สอด จ.ตาก, โรงพยาบาลแม่สาย จ.เชียงราย, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพชุมชนบ้านผาหมี จ.เชียงราย, โรงพยาบาลเจ้าคุณไพบูลย์ จ.กาญจนบุรี, โรงพยาบาลกระบุรี จ.ระนอง และ โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ และจ.ประจวบคีรีขันธ์

ซึ่งเป็นกลุ่มโรงพยาบาลที่อยู่ในจุดพื้นที่เสี่ยง ต้องได้รับการดูแลป้องกัน และเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากหลายพื้นที่ในประเทศพม่า มีการระบาดหนักและถูกสั่งให้ล็อคดาวน์อย่างไร้กำหนด ดังนั้น อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ป้องกันการติดเชื้อและช่วยเสริมความพร้อมในการรับมือกับการแพร่ระบาดจึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก

สำหรับสถิติจากศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พบว่า ประเทศพม่ามีผู้ป่วยโควิด-19 มากกว่า 10,000 คนแล้ว และแต่ละวันเพิ่มขึ้นกว่า 1,000 คน/วัน และยังพบว่าบางช่วงเพิ่มขึ้นเท่าตัวใน 1 เดือนที่ผ่านมา และนับตั้งแต่เดือนส.ค. รัฐบาลพม่าได้ใช้มาตรการสกัดกั้นไวรัสอย่างเข้มงวดสูงสุด

ขณะที่ในส่วนของฝั่งประเทศไทยเอง ก็ได้ดำเนินตามมาตรการและแนวทางปฏิบัติของการป้องกันโรคสำหรับผู้เดินทางเข้ามาในประเทศอย่างเคร่งครัด พร้อมดำเนินการตามระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องและมาตรการป้องกันโรคที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด