กองทัพรัสเซียยึดโรงไฟฟ้า “ซาปอริซเซีย” ยูเครนได้แล้ว

  • รมว.ต่างประเทศชี้รัสเซียระดมยิงทุกทิศทางส่งผลเกิดเพลิงไหม้
  • เรียกร้องหยุดยิงและเปิดทางให้นักดับเพลิงเข้าควบคุมสถานการณ์
  • ลั่นถ้าระเบิดรุนแรงกว่า “เชอรโนบิล” ระเบิด 10 เท่าเกิดหายนะใหญ่

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ยูเครนว่า กองกำลังทหารของรัสเซียได้เข้ายึดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซีย ของยูเครนได้แล้ว หลังจากใช้อาวุธหนักยิงถล่ม

“เจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการกำลังตรวจสอบสภาพของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ เพื่อให้มั่นใจว่าการดำเนินการทุกอย่างจะปลอดภัย”

ทั้งนี้ กองกำลังทหารของรัสเซียบุกโจมตีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซียในเมืองอีเนอร์โกดาร์ของยูเครนในช่วงเช้าของวันที่ 4 มี.ค.65 ส่งผลให้อาคารศูนย์ฝึกอบรม ซึ่งมีความสูง 5 ชั้นที่อยู่ติดกันเกิดเพลิงไหม้

นายดมิโทร คูเลบา รมว.ต่างประเทศยูเครน กล่าวว่า กองกำลังทหารรัสเซียระดมยิงโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซียจากทุกๆ ด้าน ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป หากเกิดการระเบิดออกมาแล้ว ความรุนแรงจะมากกว่าเชอร์โนบิล 10 เท่า รัสเซียต้องหยุดยิงทันที และปล่อยให้นักดับเพลิง เข้าไปควบคุมเพลิง

ขณะที่นายดมิโทร ออร์ลอฟ นายกเทศมนตรีเมืองอีเนอร์โกดาร์ของยูเครน กล่าวว่า เกิดเพลิงไหม้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซีย หลังจากกองกำลังทหารของรัสเซียได้เข้าโจมตี และได้ยิงปะทะกันระหว่างกองกำลังทั้ง 2 ฝ่าย จนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต

ส่วนโฆษกของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซียได้โพสต์วิดีโอในเทเลแกรม เรียกร้องให้มีการยุติการใช้อาวุธหนักยิงถล่มโรงไฟฟ้าแห่งนี้ เพราะถือเป็นภัยคุกคามอย่างแท้จริง ที่อาจเกิดขึ้นกับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป

พร้อมกับให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ยูเครนว่า การยิงของรัสเซียพุ่งเป้าตรงมาที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซีย เป็นเหตุให้เกิดไฟไหม้ขึ้นในเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 1 ใน 6 ตัวของโรงงาน และเตาปฏิกรณ์ดังกล่าวอยู่ระหว่างการซ่อมบำรุง ไม่ได้มีการปฏิบัติงานในขณะนี้ ถึงอย่างนั้้นก็ยังคงมีเชื้อเพลิงนิวเคลียร์อยู่ภายใน ขณะที่พนักงานดับเพลิงไม่สามารถเข้าไปดับไฟได้เพราะถูกยิง สำหรับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซีย เป็นแหล่งผลิตกระแสไฟฟ้าที่ใช้ในประเทศยูเครนมากถึง 25%

ด้านทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (ไอเออีเอ) เร่งติดต่อหน่วยงานกำกับดูแลด้านนิวเคลียร์ของยูเครน และผู้ปฏิบัติงานเกี่ยวกับสถานการณ์ร้ายแรงที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซีย เรียกร้องให้ยุติการใช้กำลัง และเตือนถึงอันตรายร้ายแรงหากเครื่องปฏิกรณ์ถูกกระทบ