กลุ่มทรู เปิดตัว 5G พร้อมพลิกโฉมไทยสู่ประเทศอัจฉริยะที่ยั่งยืน



  • ชูความพร้อมให้ชาวไทยใช้ชีวิตอัจฉริยะแบบ ทรู 5G ได้จริง
  • ปรับสู่วิถีใหม่ของเมืองอัจฉริยะ -แพทย์ -การศึกษา -ธุรกิจค้าปลีก
  • หลังโควิดใช้เทคโนโลยี 5 จี สู่ชีวิตอัจฉริยะ

นายอาณัติ เมฆไพบูลย์วัฒนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า ปัจจุบันทุกประเทศทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย กำลังเผชิญความท้าทายอย่างที่เราไม่คาดคิดมาก่อน  สถานการณ์โควิดที่ผ่านมา ทำให้เราได้เรียนรู้ ปรับตัว นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในหลายๆอย่าง ที่เป็นวิถีชีวิตใหม่  ขณะเดียวกัน  ความท้าทายก็ได้สร้างโอกาสใหม่ๆให้กับประเทศไทย   ช่วงวิกฤตที่ผ่านมา เทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมาต้องสะดวกสบาย เพิ่มความปลอดภัยในสุขภาพและการใช้ชีวิต และสามารถเชื่อมโยงทุกสิ่งเข้าด้วยกัน ผู้คน งาน และสังคมรอบข้าง  

รวมถึงการเชื่อมโยงอุปกรณ์ต่างๆเข้าด้วยกันเกิดเป็นเทรนด์ใหม่ทั้ง Connected Home อุปกรณ์ต่างๆ ในบ้านจะได้รับการเชื่อมโยงให้ผู้อยู่อาศัยในบ้านได้รับความสะดวกสบายและความปลอดภัยที่มากขึ้น เชื่อมโยงเข้าสู่คอนเทนต์และสิ่งบันเทิงต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของแต่ละคน Connected Work การทำงานจะเป็น mobility ไม่ยึดติดกับสถานที่ทำงานเพียงอย่างเดียว เทคโนโลยีจะเชื่อมโยงการทำงานร่วมกันของคนในองค์กร ได้ทุกที่ทุกเวลา Connected City การดำเนินชีวิตจะเริ่มเปลี่ยนไปสู่สังคมดิจิทัล เทคโนโลยีจะทำการเชื่อมโยงทุกสิ่งในสังคมเข้าด้วยกัน

เช่น online shopping, mobile banking, eDelivery การเชื่อมโยงระบบขนส่งและการขับขี่ eLearning และการเชื่อมโยงเข้าสู่สังคมดิจิทัลอย่างแท้จริง กลายเป็น Smart City ซึ่งจำเป็นต้องมีโครงข่ายโทรคมนาคมที่มีประสิทธิภาพและครอบคลุม ขณะเดียวกัน ก็ต้องมีความสามารถในการเชื่อมต่อด้านดิจิทัล สื่อสารได้อย่างไร้พรมแดน มีบริการทางด้านดิจิทัลที่มีความพร้อมเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ อาทิ True ID ดิจิทัลแพลตฟอร์มที่เป็นศูนย์รวมความบันเทิงและไลฟ์สไตล์ คอนเทนต์ ช้อปปิ้งซื้อสินค้าออนไลน์ สิทธิพิเศษต่างๆสำหรับลูกค้าทรู รวมทั้งโทร แชท วิดีโอคอลล์ ผ่านแอปTrueMoney Wallet แอปพลิเคชันกระเป๋าเงินออนไลน์ ใช้ชำระแทนเงินสดได้ เพื่อเข้าสู่สังคมไร้เงินสด (Cashless Society)TRUE VIRTUAL WORLD ศูนย์รวมโซลูชันดิจิทัลที่ครบวงจร มีความปลอดภัยสูง ตอบโจทย์ทุกความต้องการขององค์กรธุรกิจ ภาคการศึกษา และไลฟ์สไตล์

“การมาของเทคโนโลยี 5G ในประเทศไทย จึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมอย่างมาก เพราะ 5G จะเข้ามาเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนสังคมและเร่งปูทางประเทศของเราให้เข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ เปิดโอกาสให้ประเทศพร้อมแข่งขันในระดับโลก ซึ่งกลุ่มทรู มั่นใจว่าด้วยอัจฉริยะภาพของTrue 5G  ที่ได้เข้าไปมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนวิถีชีวิตใหม่ให้กับหลากหลายอุตสาหกรรมในช่วงที่ผ่านมา รวมทั้งความเหนือกว่าของ ทรู 5G”    

นายอาณัติ กล่าวต่อว่า  ทั้งนี้ความแข็งแกร่งที่แตกต่างของกลุ่มทรู  เป็นค่ายมือถือรายเดียวที่มีคลื่นครบสุดถึง 7 ย่านความถี่ โดยมีคลื่นย่านความถี่ต่ำที่หลากหลายมากที่สุดและมีแบนด์วิธมากที่สุดอีกทั้งเป็นหนึ่งในสองโอเปอเรเตอร์ทีมีคลื่น 2600 MHz ที่เป็นคลื่นหลักในการให้บริการ 5G  ผสานกับจุดเด่นในเรื่องความครบครัน ของพันธมิตรชั้นนำทั้งในประเทศและระดับโลกอย่างไชน่าโมบายล์  ตลอดจนความเป็นผู้นำด้านดิจิทัลเทคโนโลยีของกลุ่มทรูที่ครบวงจรรายเดียวในประเทศ ที่มีโซลูชันและเทคโนโลยีอัจฉริยะ ทั้ง AI, Robotics, Deep Data Analytics และ Smart IoT ทำให้มั่นใจได้ว่า ทรู5G พร้อมแล้วที่จะพลิกโฉมไทย สู่ประเทศอัจฉริยะที่ยั่งยืน ”    

นายคนึงเดช   ไตรรัตนอุปถัมภ์   ผู้อำนวยการ ด้านปฏิบัติการโครงข่าย บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “กลุ่มทรูมีการลงทุนด้านเครือข่ายอย่างมีกลยุทธ์ เพื่อขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นสมาร์ทซิตี้  โดยได้ทดสอบบริการทรู 5G มาตั้งแต่ปี 2559  ซึ่งมีไชน่าโมบายล์พันธมิตรชั้นนำระดับโลก  ได้ทำงานร่วมกับทีมเน็ตเวิร์คมาอย่างต่อเนื่อง สำหรับคลื่น 2600MHz และ 26GHz 

ที่ล่าสุดทรูได้ประมูลเพิ่มเติมมาได้นั้น ทำให้กลุ่มทรูเป็นโอเปอเรเตอร์รายเดียวในไทยที่ให้บริการด้วยคลื่นที่ครบสุดถึง 7 ย่านความถี่มากสุดในไทย   โดยขณะนี้คลื่น   Mid Band คือ 2600 MHz ซึ่งเป็นความถี่หลักในการให้บริการ 5G ที่แท้จริงพร้อมแล้วที่จะให้บริการทั่วไทย    ครบทุกจังหวัด อีกทั้งด้วยเทคโนโลยี Massive MIMO ที่ทำให้ความสามารถรองรับความจุได้มากกว่าเดิม   หลายเท่า  ซึ่งทรูได้นำเข้ามาทดลองทดสอบจริงเป็นรายแรกของประเทศไทยตั้งแต่ปี  2560  โดยสามารถให้บริการแบบผสมผสานร่วมกับคลื่นเดิมบนสถานีฐานอย่างกลมกลืน  ซึ่งไม่เพียงแต่ขยายบริการ 5G แต่จะทำให้ประสบการณ์การใช้งาน 4G ของลูกค้าปัจจุบันดีขึ้นอีกด้วย

ขณะที่คลื่น Low Band หรือย่านความถี่ต่ำที่กลุ่มทรูมีหลากหลายมากที่สุดและมีแบนด์วิธมากที่สุด ทั้งคลื่น 700 MHz, 850 MHz และ900 MHzใช้เพื่อเติมเต็มและเสริมกับ Mid Band โดยใช้จุดเด่นของ low band ขยายพื้นที่ครอบคลุมที่กว้างไกลสามารถใช้งาน 5G ได้ทะลุผ่านเข้าไปในอาคาร ห้างสรรพสินค้า บ้านชั้น 2 ห้องทำงาน หรือแม้แต่ห้องนอนทำให้ไม่พลาดทุกการสื่อสาร ระยะทางจึงไม่ใช่ข้อจำกัดอีกต่อไป และ High BandmmWave26 GHz ได้นำมาให้บริการเพื่อตอบโจทย์ธุรกิจที่ต้องการความเร็วสูง ใช้ในพื้นที่ที่มีความต้องการโดยเฉพาะ เช่น ในอุตสาหกรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลทั้งด้านคุณภาพ ต้นทุน และเวลา ทั้งนี้ทุกคลื่นความถี่ที่นำมาให้บริการ 5G ยังสามารถต่อเข้ากับโครงข่ายอัจฉริยะ (Network Slicing) เพื่อมอบบริการและคุณภาพสัญญาณสุดพิเศษ ยิ่งไปกว่านั้น ทรูได้เสริมประสิทธิภาพเครือข่าย 5G ด้วยเทคโนโลยี Dynamic Spectrum Sharing หมายถึงความสามารถในการให้บริการเทคโนโลยี 4G & 5G ในสถานีฐานเดียวกัน ทำให้การขยายโครงข่าย 5G ช่วยให้คุณภาพการให้บริการ 4G ดีขึ้นด้วย ซึ่งเป็นความตั้งใจของกลุ่มทรูที่จะสร้างโครงข่ายครบทุกคลื่นความถี่ ด้วยเทคโนโลยี World Class เพื่อมอบบริการที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าทรูทุกกลุ่ม รวมถึงยังได้รับการันตีจากสถาบันทดสอบคุณภาพระดับโลกอย่าง nPerf ให้เป็น“เครือข่ายยอดเยี่ยม/ที่ดีที่สุดในประเทศไทยต่อเนื่อง 4 ปีซ้อน ตั้งแต่ปี 2559-2562 รวมถึง ไตรมาส 1 ปี 2563 ด้วย น่าจะทำให้ลูกค้าไว้วางใจ และเลือกทรูเพื่อตอบโจทย์ในทุกไลฟ์สไตล์ ปัจจุบันได้มีการขยายเครือข่ายทรู 5G ครอบคลุมแล้ว 77 จังหวัดทั่วทุกภาคของประเทศไทย ซึ่งจะเสริมกับเครือข่าย 4G ที่มีอยู่โดยจะเน้นพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่เชื่อว่าจะได้ประโยชน์เต็มที่จากเครือข่ายอัจฉริยะทรู 5G ทั้งโรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า สถานศึกษา มหาวิทยาลัย โรงงาน แหล่งท่องเที่ยว และสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินทั้ง 22 สถานี”

นายพิรุณ ไพรีพ่ายฤทธิ์ หัวหน้าคณะทำงานและกรรมการยุทธศาสตร์ 5G บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “เทคโนโลยี 5G เริ่มเข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา และเป็นตัวเร่งให้ประเทศไทยเห็นความสำคัญ ในการนำนวัตกรรมเข้ามาปรับใช้ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในองค์กร และสร้างศักยภาพใหม่ของประเทศ เพื่อเข้าสู่ ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งความแตกต่างของยุค 5G คือการทำงานที่ต้องมีพันธมิตรในหลายระดับ เพื่อสร้าง อีโคซิสเต็มส์ พัฒนา Use Case ต่างๆ รวมถึงการให้ประชาชนสามารถเข้าถึงเทคโนโลยี 5G ได้ง่าย ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันให้เกิดประโยชน์สูงสุด และสามารถนำอัจฉริยภาพของทรู5G มาสร้างประโยชน์ให้ใช้งานได้จริง ทั้งเรื่องความเร็วที่มากขึ้น รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆได้มากขึ้น และความหน่วงต่ำ ที่ทำให้เกิดการรับส่งข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ แม่นยำ การเกิดนวัตกรรมต่างๆ ทั้ง VR และ AR ตลอดจนการนำบิ๊กดาต้ามาทำให้ธุรกิจ พร้อมปรับสู่วิถีใหม่ของเมืองอัจฉริยะ ทั้งวงการแพทย์ การศึกษา ธุรกิจค้าปลีก และอุตสาหกรรมต่างๆ ทั้งพลังงาน ตลอดจนด้านสิ่งแวดล้อม อีกทั้งการทำให้คนไทยเข้าถึงเทคโนโลยี 5G ได้ง่ายขึ้นเพื่อตอบโจทย์วิถีชีวิตใหม่ และร่วมขับเคลื่อนประเทศไทยในวิถีใหม่ วันนี้ ทรู 5G พร้อมแล้วที่จะพาชาวไทยก้าวสู่“ชีวิตอัจฉริยะ”ที่เป็นจริงแล้ว

นายโอลิเวอร์ กิตติพงษ์ วีระเตชะ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านแบรนด์และการสื่อสาร ทรู กล่าวว่า ด้วยปณิธานของทรู 5G ที่มุ่งมั่นพัฒนาเครือข่ายที่ไม่ใช่แค่สัญญาณมือถือ แต่มีทั้งเทคโนโลยีนวัตกรรม และแพลตฟอร์มอัจฉริยะ ที่ทรูมุ่งมั่นพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อเป็น complete digital lifestyle ecosystem เปลี่ยนประเทศ และสร้างโลกใหม่แห่งชีวิตอัจฉริยะที่ยั่งยืน เพื่อยกระดับให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะ ที่ทุกอย่างไม่ใช่แค่ภาพความฝันอีกต่อไป แต่วันนี้ทรูทำให้เกิดขึ้นจริง พร้อมให้คนไทยได้สัมผัสประสบการณ์ของชีวิตอัจฉริยะ