กระทรวงพลังงาน จรดปากกาสัมปทานปิโตรเลียมแปลงสำรวจบนบกหมายเลข L1/64 เผย 3 ปีแรก รัฐรับผลประโยชน์กว่า 130 ล้านบาท



วันนี้ (19 พ.ย.64) นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน พร้อมด้วย นายกุลิศ สมบัติศิริปลัดกระทรวงพลังงาน และนายสราวุธ แก้วตาทิพย์ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ได้ร่วมพิธีลงนามสัมปทานปิโตรเลียม สำหรับแปลงสำรวจบนบกหมายเลข L1/64 ในเขตจังหวัดสุโขทัย และกำแพงเพชร กับบริษัท ซีเอ็นพีซีเอชเค (ไทยแลนด์) จำกัด โดยมี ฯพณฯ หาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย ให้เกียรติเข้าร่วมพิธีลงนามสัมปทานปิโตรเลียมดังกล่าวด้วย

นายสราวุธ เปิดเผยว่า การลงนามสัมปทานฯ ในครั้งนี้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2564 ที่เห็นชอบให้สัมปทานปิโตรเลียม แปลงสำรวจบนบกหมายเลข L1/64 แก่บริษัท ซีเอ็นพีซีเอชเค (ไทยแลนด์) จำกัด พื้นที่รวม 78.90 ตารางกิโลเมตร ในเขตจังหวัดสุโขทัยและกำแพงเพชร ซึ่งการได้ผู้รับสิทธิในการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในครั้งนี้ จะมีส่วนช่วยในการสร้างความต่อเนื่องในการจัดหาปิโตรเลียมภายในประเทศได้ 

“ในเบื้องต้นคาดว่าแหล่งปิโตรเลียมดังกล่าว จะสามารถผลิตน้ำมันดิบได้ประมาณ 300-400 บาร์เรลต่อวัน และสามารถทดแทนมูลค่าการนำเข้าน้ำมันดิบได้ประมาณ 300 ล้านบาทต่อปี” นายสราวุธ กล่าว

ทั้งนี้ในช่วง 3 ปีแรกของการสำรวจจะมีการลงทุนขั้นต่ำภายในประเทศ และผลประโยชน์พิเศษที่รัฐจะได้รับ รวมประมาณ 4.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 130 ล้านบาท และหากสามารถพัฒนาแหล่งและผลิตปิโตรเลียม ในแปลงสำรวจปิโตรเลียมดังกล่าวได้ก็จะสามารถสร้างรายได้ให้แก่รัฐในรูปแบบของค่าภาคหลวงและภาษีเงินได้ปิโตรเลียมที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม ทำให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้แก่ท้องถิ่นต่อไป