

- พร้อมรับมือสถานการณ์ตึงเครียดสหรัฐฯ-อิหร่าน
- ย้ำดูแลประชาชนในทุกด้าน
- ไม่มีปัญหาปริมาณสำรอง และเรื่องราคา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากระทรวงพลังงาน ได้จัดทำมาตรการรับมือกรณีสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างประเทศสหรัฐฯและอิหร่านที่ส่งผลต่อราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกโดยได้ยืนยันว่าพร้อมติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินและเตรียมการหากเกิดสถานการณ์ที่วิกฤตเพิ่มขึ้น โดยในวันนี้ได้มีการประชุมหารือและได้เตรียมการที่สำคัญดังนี้
ด้านปริมาณสำรอง ปัจจุบัน ณ วันที่ 5 ม.ค.ประเทศไทยมีปริมาณสำรองน้ำมันดิบ2,988 ล้านลิตร ปริมาณสำรองน้ำมันดิบที่อยู่ระหว่างขนส่งอีก 1,144 ล้านลิตร น้ำมันสำเร็จรูป 1,468 ล้านลิตร รวมจำนวนวันที่สามารถใช้น้ำมันเชื้อเพลิงได้ทั้งหมด 50 วันส่วนปริมาณสำรองก๊าซ หุวต้มทั้งหมด 101 ล้านกิโลกรัม สำรองได้ 17 วันสำหรับใช้ในภาคครัวเรือน
ทั้งนี้ ได้มีการบริหารจัดการเพื่อกระจายความเสี่ยงระยะยาว โดยกลุ่ม ปตท. ได้ปรับลดสัดส่วนการนำเข้าน้ำมันจากตะวันออกกลางที่เคยสูงถึงกว่า 74% และล่าสุดปรับลดเหลือ 50%
ขณะที่ในด้านการผลิตปิโตรเลียมในประเทศ ปัจจุบันผลิตน้ำมันดิบได้130,000บาร์เรล/วัน โดยกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติจะขอความร่วมมือในการงดส่งออกน้ำมันดิบซึ่งจะได้ปริมาณน้ำมันดิบเพิ่มมากขึ้น 25,000 บาร์เรล/วัน และหากมีเหตุฉุกเฉิน สามารถเพิ่มการผลิตภายในประเทศให้มากขึ้นอีก 36,000 บาร์เรล/วัน และจะขอความร่วมมือกับโรงกลั่นน้ำมันให้หาทางออกด้านเทคนิคเพื่อใช้น้ำมันดิบในประเทศทั้งหมด
ในด้านบริหารราคาน้ำมันเชื้อเพลิง กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมีเกณฑ์สำหรับการบริหารจัดการราคาน้ำมันในช่วงสถานการณ์ฉุกเฉิน ในการบริหารจัดการราคาน้ำมันไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชน ที่จะมีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดในเรื่องดังกล่าวขณะนี้สถานะกองทุนน้ำมันฯ อยู่ที่ 37,000 ล้านบาท