กรมอนามัย เผย 9-15 เม.ย. มีผู้ป่วยโควิด 435 คน เฉลี่ยวันละ 62 คน เพิ่มขึ้นเป็น 7 เท่า

  • แนะให้สังเกตอาการตนเอง
  • หากพบว่ามีอาการป่วยให้ตรวจ ATK ก่อนเริ่มกลับเข้าทำงาน
  • รวมทั้งสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือเป็นประจำ เพื่อความปลอดภัย

ดร.นายแพทย์สราวุฒิ บุญสุข รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากสถานการณ์ยอดผู้ป่วยโควิด-19 ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ตั้งแต่วันที่ 9-15 เมษายน 2566 พบว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ในโรงพยาบาล จำนวน 435 คน เฉลี่ยวันละ 62 คน เพิ่มขึ้นเป็น 7 เท่าจากสัปดาห์ที่ผ่านมา วันที่ 2-8 เมษายน 2566 ที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 168 คน เฉลี่ยวันละ 24 คน สาเหตุส่วนหนึ่งเกิดจากช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา ประชาชนได้กลับมา ใช้ชีวิตปกติ หลังห่างหายจากเทศกาลสงกรานต์มานาน การเดินทางไปท่องเที่ยว กลับภูมิลำเนา รวมทั้งสถานประกอบการ สถานบันเทิง มหกรรมรื่นเริงกลับมาคึกคักอีกครั้ง ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน และอาจมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ดร.นายแพทย์สราวุฒิ กล่าวต่อไปว่า ประกอบกับการแพร่ระบาดของเชื้อสายพันธุ์โควิด XBB.1.16 ที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะที่ประเทศอินเดีย สำหรับในประเทศไทยมีรายงานพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์นี้ จำนวน 6 ราย ทั้งนี้ เชื้อสายพันธุ์โควิด XBB.1.16 มีความสามารถในการติดต่อสูงกว่าเชื้อสายพันธุ์อื่น แต่ไม่ได้มีอาการรุนแรงอื่นๆ เพิ่มเติม กระทรวงสาธารณสุขจึงมีการเตรียมความพร้อมรับมือผู้ติดเชื้อโควิด-19 ให้สามารถเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลตามสิทธิ เพื่อให้แพทย์วินิจฉัยอาการของโรค ผู้ที่ไม่มีอาการหรือมีอาการแต่ไม่รุนแรง จะได้รับการรักษาตามอาการ และกลับไปรักษาต่อที่บ้านได้ สำหรับผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงและโรคประจำตัว จะได้รับการวินิจฉัยให้ยาต้านไวรัสตามความเหมาะสม แต่จะเฝ้าระวังเป็นพิเศษในกลุ่มผู้ที่มีปอดอักเสบรุนแรง และมีภาวะพร่องออกซิเจน (Hypoxia) ร่วมด้วย ซึ่งจากข้อมูลวันที่ 8 เมษายน 2566 พบผู้ป่วยปอดอักเสบ จำนวน 19 คน และใส่ท่อช่วยหายใจ จำนวน 14 คน สำหรับผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีความเสี่ยงที่อยู่บ้าน อาจได้รับการแพร่เชื้อจากบุคคลในครอบครัวที่เดินทางมาเยี่ยมตามประเพณี หากมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอหรือเสี่ยงต่อการติดเชื้อให้รีบปรึกษาเจ้าหน้าที่ทางสาธารณสุขทันที

อีกทั้ง กรมอนามัยขอให้ประชาชนเฝ้าระวังตนเอง โดยสังเกตอาการ หากไอ เจ็บคอ มีไข้ ปวดกล้ามเนื้อ มีน้ำมูก ปวดศีรษะ หายใจลำบาก ให้ตรวจ ATK เพื่อความมั่นใจ รวมทั้งสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา เมื่อกลับเข้าไปทำงาน และล้างมือเป็นประจำ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เพราะหากเกิดการระบาดเป็นวงกว้างอาจส่งผลต่อการทำงาน ผู้บังคับบัญชาหรือหัวหน้างานอาจพิจารณาให้พนักงานที่ป่วยทำงานที่บ้าน สำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มสุดท้ายเป็นระยะเวลา 4 เดือน สามารถเข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้น เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน ให้กับร่างกาย ซึ่งสามารถลดอาการรุนแรงของโรค และป้องกันการเสียชีวิตได้