กรมสรรพากร ยังไม่มีนโยบายเลื่อนเก็บภาษีดูแลประชาชนหลังโควิดระบาดรอบใหม่ สั่งตั้ง“ทูตภาษี” ให้ความรู้ทั่วประเทศ



  • ยื่นแบบเงินได้บุคคลธรรมดาตามปกติ จนถึง 31 มี.ค.64 ส่วนออนไลน์ยื่นได้ถึง 8 เม.ย.64
  • ร่วมโครงการรัฐ ไม่คิดภาษีเงินได้ ยันเป้าเก็บรายได้ปี 64 จำนวน 2.085 ล้านล้านบาท

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า กรมสรรพากรยังไม่ได้รับนโยบายการเลื่อนจัดเก็บภาษีบุคคลธรรมดาในปีภาษี 2564 จากนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เพื่อดูแลประชาชนแม้ปัจจุบันจะมีการระบาดของโควิด-19 รอบใหม่ อย่างไรก็ตามกรมคาดว่าจะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ภายใน 2-3 เดือน อย่างไรก็ตามขณะนี้กรมฯ ได้เปิดให้เริ่มยื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแล้วตั้งแต่ต้นเดือนม.ค.ซึ่งสามารถยื่นได้ถึงวันที่ 31 มี.ค. 2564 ส่วนผู้ที่ยื่นแบบผ่านช่องทางออนไลน์สามารถยื่นได้ถึง วันที่ 8 เม.ย.2564

“ยืนยันว่ากรมสรรพากรจะไม่คิดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากประชาชนที่รับเงินในมาตรการต่างๆ ของรัฐ อาทิ โครงการกำลังใจ ที่สนับสนุนค่าใช้จ่ายให้บุคลากรทางการแพทย์และอาสาสมัครสาธารณสุขประจําหมู่บ้าน (อสม.)โครงการ เราเที่ยวด้วยกัน และคนละครึ่ง เป็นต้น ซึ่งขณะนี้กรมมอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) รวบรวมมาตรการต่างๆ ที่ได้ออกมาในปีที่แล้ว เพื่อดำเนินการออกกฎหมายเว้นภาษีจากโครงการดังกล่าวด้วย ดังนั้นขอให้ประชาชนไม่ต้องกังวลเรื่องการเสียภาษีเงินได้”

สำหรับการยื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดานั้น ขณะนี้กรมได้ตั้งทูตภาษีทั่วประเทศ เพื่อให้คำแนะนำในเรื่องการยื่นแบบภาษี รวมทั้งได้พัฒนาระบบ Data Analytics สำหรับตรวจจับคนโกงภาษี ซึ่งขณะนี้ระบบมีความสมบูรณ์ สามารถเห็นภาพผู้ที่หลีกเลี่ยงจ่ายภาษีได้ ซึ่งกรมจะไปเตือนผู้ที่เลี่ยงภาษีก่อนจะปรับตามกฎหมาย โดยถ้าหากพบว่าเสียภาษีไม่ครบและไม่มาจ่ายจะต้องเสียเบี้ยปรับ 0.5 – 1 เท่า ของค่าภาษีที่ต้องจ่าย และเสียเงินเพิ่ม 1.5% ต่อเดือนของภาษีที่ต้องจ่าย อย่างไรก็ตามจำนวนผู้ที่หลบเลี่ยงภาษี หรือแสดงรายได้ไม่ตามจริงนั้น ยังไม่สามารถระบุได้ คาดว่าจะทราบหลังจากที่สิ้นสุดระยะเวลาการยื่นแบบภาษีปี 2564

ส่วนการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพากร ในปีงบประมาณ 2564 ตั้งเป้าหมายจัดเก็บไว้ที่ 2.085 ล้านล้านบาท ซึ่งมากว่าเป้าของปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามในช่วงโดย 2 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2564 การจัดเก็บภาษีเป็นไปด้วยดี ติดลบน้อยกว่าการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพสามิต และกรมศุลกากร

“กรมจะพยายามจัดเก็บรายได้ เพื่อสร้างความเป็นธรรมให้กับผู้เสียภาษี เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบัน ยังมีบางธุรกิจที่ได้รับผลประโยชน์จากแพร่ระบาดของโควิด-19 เช่น ธุรกิจถุงมือยาง หน้ากากอนามัย เป็นต้น ดังนั้นธุรกิจเหล่านี้จะต้องมีความรับผิดชอบในการชำระภาษี เพื่อแบ่งเบาภาระประเทศด้วย รวมทั้งขอความร่วมมือธุรกิจออนไลน์ และออฟไลน์ หากถึงเกณฑ์รายได้ที่ต้องเสียภาษี ก็ควรทำตามหน้าที่จ่ายภาษีให้ครบถ้วน เพื่อสร้างความเป็นธรรมให้กับผู้ที่เสียภาษีรายอื่นด้วย”