

- หวังให้นักธุรกิจรายใหม่สามารถเข้าถึงความรู้ทางภาษีขั้นพื้นฐาน
- สามารถเข้าไปทดลองเรียนรู้ได้ตั้งแต่วันที่ 22 ต.ค. เป็นต้นไป
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า กรมสรรพากรร่วมกับธนาคารพัฒนาเอเชีย พัฒนานวัตกรรมให้ความรู้ทางภาษีในรูปแบบดิจิทัลภายใต้ชื่อ taxliteracy.academy โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือผู้ประกอบการ SME ผู้ประกอบธุรกิจออนไลน์ โดยวัตถุประสงค์ของการพัฒนานวัตกรรมนี้เพื่อให้ผู้ประกอบธุรกิจทั่วไปโดยเฉพาะผู้ประกอบการ SMEs และธุรกิจรายใหม่สามารถเข้าถึงความรู้ทางภาษีขั้นพื้นฐานได้โดยง่ายผ่านสื่อดิจิทัลที่รวดเร็ว สะดวก และสามารถเข้าถึงผู้ใช้งานได้ในวงกว้าง

“ปัจจุบันตลาดซื้อขายสินค้าออนไลน์ได้เติบโตขึ้นเป็นช่องทางหลักของธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการรายเดิม และผู้ประกอบการรายใหม่ที่จะเข้ามาในตลาดในอนาคต การเป็นผู้ประกอบการ SMEs หรือ ผู้ประกอบรายใหม่ มีความท้าทาย และไม่ใช่เรื่องง่ายในการเข้าใจเรื่องภาษี”
สำหรับนวัตกรรมการให้ความรู้ทางภาษีในรูปแบบดิจิทัลนี้ เป็นกระบวนการเรียนรู้จากประสบการณ์ หรือ Experiential Learning ซึ่งแบ่งออกเป็นสามส่วน ได้แก่ 1.การทดลองเล่น เลือกรูปแบบและเส้นทางการวางแผนภาษีสำหรับการประกอบธุรกิจของคุณผ่านการ ตอบคำถามง่ายๆ ในผลิตภัณฑ์การให้ความรู้ภาษี (Digital tax literacy product) สามารถย้อนกลับไป เลือกคำตอบ ได้ใหม่เมื่อเล่นจบ
2. การเรียนรู้ มีคำอธิบายและการเปรียบ เทียบระหว่างการเสียภาษี บุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ระหว่างการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มหรือไม่เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม
และ 3. ความเข้าใจ คุณจะมีความรู้ความเข้าใจ เรื่องภาษี และการบริหารเงินสดในมือดีขึ้น พร้อมกับได้รับ tax checklist ไว้อ้างอิงในการวางแผนภาษีในอนาคต
นายฮิเดอะกิ อิวาซากิ ผู้อำนวยการสำนักงานผู้แทนธนาคารพัฒนาเอเชีย ประจำประเทศไทย กล่าวว่า ธนาคารพัฒนาเอเชียมีความยินดีที่ได้มีส่วนร่วมในการสนับสนุนประเทศไทยในการเพิ่มทักษะความรู้ทางภาษีเบื้องต้นแก่กลุ่มเป้าหมายผู้เสียภาษี ผ่านความร่วมมือกับกรมสรรพากรในการพัฒนานวัตกรรมการ ให้ความรู้ทางภาษีในรูปแบบดิจิทัลดังกล่าว ซึ่งเป็นการดำเนินงานภายใต้ความช่วยเหลือทางวิชาการของ ธนาคารพัฒนาเอเชียเกี่ยวกับการเข้าถึงบริการทางการเงินอย่างทั่วถึง (financial inclusion) ที่ให้กับกระทรวงการคลัง โดยได้รับเงินทุนสนับสนุนจาก Japan Fund for Poverty Reduction นวัตกรรมการให้ความรู้
“ภาษีดังกล่าวมีส่วนสำคัญต่อการสร้างเสริมความรู้ความเข้าใจเรื่องภาษี ส่งผลให้เกิดการบริหารจัดการเงินสดและโอกาสการเข้าถึงบริการทางการเงินที่ดีขึ้นแก่ผู้ประกอบการรายเล็กและรายใหม่ที่ประกอบธุรกิจค้าขายสินค้าและบริการทั่วไปและออนไลน์ ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญต่อการพัฒนาธุรกิจและเศรษฐกิจของประเทศไทยให้เติบโตได้อย่างยั่งยืนต่อไป”
ทั้งนี้ผู้ประกอบการหรือผู้ที่สนใจสามารถเข้าใช้นวัตกรรมการให้ความรู้ทางภาษีในรูปแบบดิจิทัลได้ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น ที่ www.taxliteracy.academy ตั้งแต่วันที่ 22 ต.ค. 2563 เป็นต้นไป
สำหรับผู้ที่มีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กองบริหารภาษีธุรกิจขนาดกลาง และขนาดเล็ก โทร 02-2729821 หรือ [email protected] หรือศูนย์สารนิเทศสรรพากร (RD Intelligence Center) โทร. 1161