- หาซื้อได้ที่ “แมคโคร-เทสโก้ โลตัส-ท็อปมาร์เก็ต”
- ช่วยเกษตรกรกันหน่อย หลังถูกร้านอาหาร-โรงแรมหยุดสั่งซื้อ
นายถาวร จิระโสภณรักษ์ รองอธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด – 19 ส่งผลให้ร้านค้า ภัตตาคาร และโรงแรม หยุดการสั่งซื้อ รวมถึงการจำหน่ายสินค้าประมงให้ผู้บริโภคในประเทศก็ลดลงอย่างฉับพลัน จากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ ทำให้เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากไม่สามารถจำหน่ายผลผลิตได้ตามปกติ ทำให้มีปลากะพงขาวขนาดใหญ่ตั้งแต่ 3 – 6 กิโลกรัม/ตัวตกค้างในระบบการเลี้ยงเป็นจำนวนมาก และยังประสบปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำอีกด้วย
ดังนั้นกรมประมงจึงได้วางมาตรการเพื่อช่วยกระตุ้นและส่งเสริมการบริโภคสัตว์น้ำภายในประเทศ โดยได้จับมือกับหน่วยงานของกระทรวงพาณิชย์ อาทิ กรมการค้าภายใน และสำนักงานพาณิชย์จังหวัด และภาคเอกชน เป็นต้น เพื่อเชื่อมโยงตลาดในการกระจายผลผลิตปลากะพงขาวเข้าสู่ตลาดค้าปลีกสมัยใหม่ หรือ โมเดิร์นเทรด ได้แก่ บริษัทสยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารห้างแม็คโคร บริษัท เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด ผู้บริหารห้างเทสโก้โลตัสบริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ผู้บริหารท็อปส์ มาร์เก็ต รวมถึงสมาคมภัตตาคารไทย และมีจุดจำหน่ายในพื้นที่จังหวัดต่าง ๆ ที่ใกล้กับฟาร์มเพาะเลี้ยงของเกษตรกร ทำให้เกษตรกรสามารถจำหน่ายผลผลิตได้ในราคาที่เป็นธรรมเหมาะสมกับสภาพต้นทุน อีกทั้งยังเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อได้ง่ายอีกด้วย และกรมประมงเตรียมเปิดบ้านจัดงาน “ชาตินิยม กะพงไทย” (Seabass Fair) ครั้งที่ 2 เพื่อจำหน่ายปลากะพงขาวคุณภาพดี สด สะอาด ไร้สารตกค้างราคาถูก และผลิตภัณฑ์ปลากะพงขาว ระหว่างวันที่ 8 – 9 ก.ย. 2563 ณ บริเวณลานหน้าอาคารสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำจืด กรุงเทพฯ กรมประมง
“จากการหารือกับภาคเอกชนยินดีให้ความร่วมมือเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรเป็นอย่างดี และกรมประมงจะเร่งจัดทำข้อมูลวิชาการ คุณค่าทางโภชนาการของปลากะพงขาว เพื่อช่วยกระตุ้นและส่งเสริมการบริโภคปลากะพงขาว ภายในประเทศอีกทางหนึ่ง อีกทั้งผ่านมากรมประมงได้เปิดระบบการสั่งจองสินค้าสัตว์น้ำออนไลน์ เพื่อเพิ่มช่องทางการกระจายผลผลิต ภายใต้ชื่อ Fisheries Shop เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้เกษตรกร ใช้เป็นเครื่องมือในการจำหน่ายสินค้าสัตว์น้ำที่มีความสด สะอาด ปลอดภัย และได้มาตรฐาน ไปสู่ผู้บริโภคโดยตรง ไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง ล่าสุดมีเกษตรกรเข้าร่วมจำหน่ายสินค้า แล้วกว่า 273 ราย ปรากฏว่า และมีลูกค้าสนใจสั่งจองและซื้อสินค้าจำนวนมาก”
นอกจากนี้เพื่อเป็นการแก้ปัญหาในระยะยาวกรมประมงจึงได้จัดทำแผนปฏิบัติการด้านปลากะพงขาว พ.ศ. 2563 – 2565 ขึ้น เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาศักยภาพการผลิตตลอดสายการผลิต และการตลาด รวมทั้งจะสนับสนุนข้อมูลวิชาการเพื่อผลักดันปลากะพงยักษ์ให้ขึ้นทะเบียนเป็นสินค้าบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์(จีไอ) ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าและเป็นเครื่องมือทางการตลาดต่อไปในอนาคต
