

- ผลเบิกจ่าย 8 เดือนแรกปีงบ 64 เบิกจ่ายได้ 59%
- ชี้โควิด-19 ทำงบลงทุนยังต่ำเป้าหมาย
นายประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมบัญชีกลางเปิดเผยว่า กรมบัญชีกลางเตรียมออกประกาศแจ้งไปยังส่วนราชการต่างๆกรณีการยกเว้นเบี้ยปรับการลงทุนแก่ภาคเอกชนที่ไม่สามารถลงทุนได้ตามระยะเวลาของสัญญา เพื่อเป็นการช่วยเหลือภาคเอกชนในภาวะที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19
“ที่ผ่านมา กรมฯเคยส่งหนังสือเวียนไปรอบหนึ่งแล้วว่า ขอให้ยกเว้นเบี้ยปรับแก่ภาคเอกชนต่อกรณีดังกล่าว แต่ส่วนราชการยังไม่แน่ใจ ทางกรมฯจึงจะออกประกาศเพื่อแจ้งไปยังส่วนราชการอีกครั้ง”
อย่างไรก็ตามการลงทุนภาครัฐอาจจะต่ำกว่าเป้าหมาย ส่วนสำคัญเป็นผลจากกระทบที่เกิดขึ้นจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้การส่งมอบงานล่าช้า ซึ่งกรมก็พยายามที่จะเร่งรัด โดยคาดหวังว่า สถานการณ์โควิด-19 น่าจะคลี่คลายลง รวมทั้งจะเร่งรัดให้การเบิกจ่ายดีขึ้นในช่วงไตรมาสสี่ของปีงบประมาณ
สำหรับยอดการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประมาณ 8 เดือนประจำปี 2654 โดยนับจากต้นปีงบประมาณหรือตั้งแต่เดือนต.ค.2563 ถึงเมื่อวันที่ 21 พ.ค.2564 รัฐบาลสามารถเบิกจ่ายได้รวม 2 ล้านล้านบาท จากวงเงินรวม 3.5 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 59% ของวงเงินงบประมาณ ทั้งนี้ เป้าหมายการเบิกจ่ายทั้งปีงบประมาณอยู่ที่ 96%
ทั้งนี้ วงเงินงบประมาณรายจ่ายในปี 2564 จำนวน 3.5 ล้านล้านบาท แบ่งเป็น งบประมาณรายจ่ายประจำปี 3.28 ล้านล้านบาท และ เงินกันเบิกเหลื่อมปีอีก 2.14 แสนล้านบาท และในการเบิกจ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายดังกล่าว แบ่งเป็น การเบิกจ่ายประจำ 1.7 ล้านล้านบาท หรือ 65% การเบิกจ่ายงบลงทุน 2.21 แสนล้านบาท หรือ 34.16% ส่วนที่เหลือเป็นการเบิกจ่ายเงินกันเบิกเหลื่อมปี 1.47 แสนล้านบาท หรือ 69.10% ของเงินกันเบิกเหลื่อมปีทั้งหมด
สำหรับเป้าหมายการเบิกจ่ายนั้น คณะรัฐมนตรีมีมติกำหนดเป้าหมายการใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสามารถสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจท่ามกลางปัญหาการแพร่ระบาดโควิด-19 โดยกำหนดเป้าหมายการเบิกจ่ายเป็นรายไตรมาสทั้งงบประมาณรายจ่ายประจำและงบลงทุน
“ในไตรมาสแรกกำหนดเป้าหมายการเบิกจ่ายรวมไว้ที่ 32% ไตรมาสสอง 54% ไตรมาสมาสสาม 77% ไตรมาสสี่ 100% ส่วนงบรายจ่ายประจำนั้น ไตรมาสแรกกำหนดที่ 36% ไตรมาสสอง 57% ไตรมาสสาม 80% และไตรมาสสี่ 100% ส่วนงบลงทุนไตรมาสแรกอยู่ที่ 20% ไตรมาสสอง 45% ไตรมาสสาม 65% และ ไตรมาสสี่ 100%”
นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรียังเร่งรัดการใช้จ่ายด้านการอบรม สัมมนา ในลักษณะฟ้อนต์ โหลด(Front Load) ให้สามารถเบิกจ่ายในไตรมาสแรกของปีงบประมาณให้ได้มากที่สุดหรือไม่น้อยกว่า 50% ของวงเงินที่ได้รับจัดสรร โดยพิจารณาสนับสนุนโรงแรมขนาดเล็กและขนาดกลางและสนับสนุนการท่องเที่ยวในเมืองรองเป็นหลัก ซึ่งส่วนนี้ไม่สามารถเบิกจ่ายได้ตามเป้าหมายเช่นกัน เนื่องจาก สถานการณ์โควิด-19 ทำให้ไม่สามารถเดินทางหรือจัดอบรมสัมมนาในพื้นที่ต่างๆได้