

- เล็งเดินหน้าโครงการเฟส 2 ต่อทันทีหากได้ข้อสรุปวันที่ 8 ธ.ค.นี้
- ปิดจองที่พักผู้สูงอายุวันที่ 4 ธ.ค.นี้เพื่อตรวจสอบคุณสมบัติผู้ยื่นจอง
นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า สำหรับโครงการซีเนียร์ คอมแพล็กซ์ หรือ “ที่พักอาศัยผู้สูงอายุรามาฯ-ธนารักษ์” ที่กรมธนารักษ์ร่วมกันดำเนินการกับโรงพยาบาลรามาธิบดี ซึ่งเปิดจองเมื่อวันที่ 9พ.ย.2563 นั้น ขณะนี้มียอดจองทั้งสิ้น 1,200 ราย โดยทุกราคาห้องพักมียอดจองเต็มแล้ว เหลือเพียงราคา 1.99 ล้านบาท โดยกรมธนารักษ์จะปิดจองที่พักผู้สูงอายุวันที่ 4 ธ.ค.นี้เพื่อตรวจสอบคุณสมบัติผู้ที่ยื่นจองที่พักผู้สูงอายุเข้ามาต่อไป
สำหรับห้องพักในโครงการผู้สูงอายุรามาฯ-ธนารักษ์ มีทั้งหมด 5 ราคา คือ 1.82 ล้านบาท จองเกินยอด 150% ราคา 1.99 ล้านบาท ยอดจองใกล้เต็ม 100% แล้ว ราคา 2.10 ล้านบาท จองเกินยอด 200% ราคา 2.80 ล้านบาท ยอดจองเกิน 300% และราคา 2.99 ล้านบาท ยอดจองเกิน 1,500%

“หลังจากปิดจองที่พักผู้สูงอายุ โรงพยาบาลรามาธิบดีจะดำเนินการส่งคนเข้าไปตรวจสุขภาพผู้สูงวัยที่จองซื้อถึงบ้านพักผู้สูงอายุ หรือนัดให้มาตรวจสุขภาพในโรงพยาบาลที่ใกล้บ้าน หลังจากนั้นจะดูสถานะการเงิน ซึ่งเมื่อมีหลักฐานครบถ้วนก็จะนำรายชื่อเหล่านั้นมาจับสลากอีกรอบว่าใครจะได้สิทธิ์ในโครงการที่พักผู้สูงอายุไป เพราะบ้านพักทุกราคามียอดจองเกินกว่าที่กำหนด”
อย่างไรก็ตามจากการสำรวจพบว่าผู้ที่เข้ามาจองซื้อบ้านรามาธิบดี-ธนารักษ์ ต้องการจ่ายเงินสดถึง 60% ในขณะที่ต้องการของสินเชื่อจากสถาบันการเงินเพียงแค่ 40% เท่านั้น ทั้งนี้คาดว่าโครงการนี้จะเริ่มตอกเสาเข็มในเดือนเม.ย.2564 และเริ่มเปิดให้บริการได้ช่วงปลายปี 2565
“ส่วนโครงการที่พักผู้สูงอายุ ระยะที่ 2 นั้น กรมธนารักษ์จะมีการจัดประชุมคณะกรรมการร่วม ประกอบด้วย โรงพยาบาลรามาธิบดี และธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) ในวันที่ 8 ธ.ค.2563 เพื่อสรุปว่าจะดำเนินการที่พักผู้สูงอายุโครงการระยะ 2 หรือไม่ โดยจะพิจารณายอดจองเฟสแรกประกอบการตัดสินใจด้วย อย่างไรก็ตามขณะนี้กรมธนารักษ์มีที่ดินที่กันไว้สำหรับสร้างที่พักผู้สูงอายุระยะ 2 แล้วประมาณ 50 ไร่ ซึ่งอยู่ติดกับโครงการในระยะแรก”