กรมการแพทย์ ชี้ PM 2.5 ภัยร้ายที่มองไม่เห็นในผู้สูงวัย

กรมการแพทย์ เผย PM 2.5 เป็นฝุ่นละอองขนาดเล็กที่มองไม่เห็นได้ด้วยตาเปล่า แยกได้ยากกับกลุ่มหมอกควัน PM 2.5 ล่องลอยอยู่ในอากาศได้เป็นวันหรือสัปดาห์

  • สภาพมลพิษทางอากาศจากการเผาไหม้ -ใช้ยานพาหนะ
  • ฝุ่นจิ๋วกระจายไปได้ไกลถึง 100 ไมล์
  • ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพผู้สูงวัยได้

นายแพทย์ไพโรจน์  สุรัตนวนิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่าเนื่องด้วยโมเลกุลที่เล็ก PM 2.5 จึงถูกสูดผ่านเข้าไปยังปอดผ่านการหายใจ และแทรกซึมเข้าไปในถุงลมเข้าสู่กระแสเลือด ก่อให้เกิดอันตรายต่อระบบต่าง ๆ ในร่างกายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้สูงอายุซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสเกิดโรคต่างๆ ได้เมื่อมีการสูดหายใจเอา PM 2.5 เข้าไปในร่างกายเป็นระยะนาน ฝุ่นละออง PM 2.5 นี้เมื่อเข้าสู่ร่างกาย อาจก่อให้เกิดโรคหรืออาการต่าง ๆ ได้ เช่น ตาแห้งระคายเคืองตา ผื่นแพ้ที่ผิวหนัง โรคทางเดินหายใจ มะเร็งปอด หลอดเลือดหัวใจ หัวใจเต้นผิดจังหวะ ภาวะหัวใจล้มเหลว หลอดเลือดสมองรวมไปถึงภาวะปริชานบกพร่อง (cognitive impairment)

แพทย์หญิงบุษกร โลหารชุน ผู้อำนวยการสถาบันเวชศาสตร์สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวรเพื่อผู้สูงอายุ กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การดูแลตนเองในผู้สูงอายุจากมลพิษทางอากาศเหล่านี้เราสามารถทำได้โดย 1. หลีกเลี่ยงบริเวณที่มีมลพิษทางอากาศสูง เช่น ถนนที่มีจราจรติดขัด จุดที่มีการเผาสิ่งต่างๆ 2. หลีกเลี่ยงออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง 3. สวมใส่หน้ากากที่กรองฝุ่นละอองที่มีอนุภาคขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอนได้ เช่น หน้ากาก N95 4. ทำความสะอาดบ้านบ่อยๆ และปิดบ้านหน้าต่างให้มิดชิดเพื่อลดการสะสมของฝุ่น 5. ใช้เครื่องกรองอากาศที่ได้มาตรฐาน รวมไปถึงศึกษาการใช้ที่ถูกวิธีก่อนซื้อและใช้งาน เช่น ซื้อขนาดให้เหมาะกับพื้นที่ ไม่ควรนำเครื่องกรองอากาศไว้ใต้แอร์ หรือหน้าห้องน้ำ 6. ติดตามข้อมูลข่าวสารด้านมลพิษทางอากาศเป็นประจำ เช่น เว็บไซต์กรมควบคุมมลพิษ หรือแอพพลิเคชั่นที่เชื่อถือได้ ในกรณีที่มีอาการผิดปกติ เช่น แน่นหน้าอก หายใจลำบาก ไอเรื้อรัง ระคายเคืองตา แนะนำไปพบแพทย์เพื่อตรวจ รักษา และให้คำแนะนำที่