

- พักใช้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว 6 เดือน
- โดยเน้นย้ำให้ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวปฏิบัติตามกฎหมาย
- เพื่อสร้างความประทับใจและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย
นายจาตุรนต์ ภักดีวานิช รองอธิบดีกรมการท่องเที่ยว ในฐานะนายทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์กลาง เปิดเผยว่า มอบหมายให้นายทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ สาขาภาคใต้ เขต 2 จังหวัดภูเก็ต ซึ่งมีหน้าที่กำกับดูแลธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ดำเนินการสืบหาข้อเท็จจริงโดยด่วน พบว่าการกระทำของพนักงานธุรกิจนำเที่ยวรายนี้เป็นการใช้ความรุนแรง ขาดมนุษยธรรม นำมาซึ่งความเสื่อมเสียอย่างร้ายแรงต่อศีลธรรมและวัฒนธรรมอันดีของประเทศไทย มีความผิดตามกฎหมายอาญาและถือเป็นการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามระเบียบคณะกรรมการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ว่าด้วยมาตรฐานการประกอบธุรกิจนำเที่ยวและมาตรฐานการปฏิบัติหน้าที่ของมัคคุเทศก์และผู้นำเที่ยวที่จะพึงปฏิบัติต่อนักท่องเที่ยวนายทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ สาขาภาคใต้ เขต 2 จังหวัดภูเก็ต จึงออกคำสั่งพักใช้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวผู้ประกอบการรายดังกล่าว เป็นเวลา 6 เดือน ตามมาตรา 45 แห่งพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ. 2551 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรกะรน ในข้อหา ตามมาตรา 24 ประกอบกับมาตรา 82 ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวที่กระทำการใดอันก่อให้เกิดความเสียหายแก่อุตสาหกรรมท่องเที่ยว แหล่งท่องเที่ยว หรือนักท่องเที่ยว มีโทษปรับไม่เกิน 500,000 บาท

“หลังจากนี้ กรมการท่องเที่ยวจะออกหนังสือเตือนไปยังผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวทุกรายให้ปฏิบัติตามกฎหมายพร้อมเน้นย้ำให้อำนวยความสะดวกและดูแลนักท่องเที่ยวด้วยความเป็นมิตร เพื่อสร้างความประทับใจและร่วมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยหากผู้ประกอบการรายใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบกรมการท่องเที่ยวจะดำเนินการตามกฎหมายขั้นสูงสุดต่อไป” นายจาตุรนต์กล่าวทิ้งท้าย