กรมการค้าภายในชี้ปาล์มน้ำมันราคาขยับเกินโลละ 5 บาท



  • โรงสกัดเดินเครื่องตามปกติ ลานเทกลับมาเปิดรับซื้อ
  • เกษตรกรขายผลผลิตได้แล้วหมดปัญหาเข้าคิวรอขายนาน
  • ดันราคาผลปาล์มสดขยับขึ้นเป็นกก.ละ 4.50-5.20 บาท

นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยความคืบหน้าสถานการณ์ปาล์มน้ำมันล่าสุด เมื่อวันที่ 19 ม.ค.66 ว่า ขณะนี้ ปัญหาที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จากการที่โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มในพื้นที่ภาคใต้ ปิดโรงงานซ่อมเครื่องจักรประจำปี ทำให้เกษตรกรไม่สามารถขายผลผลิตได้ จนราคาลดลงนั้น ล่าสุด สถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว โดยโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มทุกโรง และลานเททุกแห่งได้เปิดดำเนินการตามปกติ และรับซื้อผลปาล์มจากเกษตรกรแล้ว ส่งผลให้ราคาปาล์มคุณภาพขณะนี้ขยับขึ้นมาเกินกิโลกรัม (กก.) ละ  5 บาทแล้ว

“ทุกอย่างเข้าสู่ภาวะปกติ ไม่มีการรอคิวหน้าโรงงาน ไม่มีปัญหาลานเทชะลอรับซื้อ ขอให้พี่น้องชาวสวนปาล์มสบายใจ ตัดปาล์มส่งขายได้ตามปกติ ส่วนราคารับซื้อหน้าโรงงานขยับสูงขึ้นเกิน 5 บาทแล้ว ล่าสุดอยู่ที่ กก.ละ4.50-5.20 บาทสำหรับปาล์มคุณภาพหรือผลปาล์มสุก” 

อย่างไรก็ตาม ไม่ต้องการให้เกษตรกรมองที่ราคาขายเพียงอย่างเดียว แต่ให้มองถึงการผลิตปาล์มน้ำมันให้ได้คุณภาพด้วย เพราะจะทำให้ขายได้ราคาดีขึ้นมาก รวมถึงต้องลดต้นทุนการผลิต เช่น ทำอย่างไรให้ลดการใช้ปุ๋ยเคมีแต่ไม่ส่งผลต่อคุณภาพผลผลิต อย่างเพิ่มอินทรียวัตถุในดินจากทางใบปาล์ม นอกจากนี้ ยังต้องดูแลต้นปาล์ม โดยการให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ และต้องตัดปาล์มสุกเท่านั้น จะได้น้ำหนักมากและขายได้ในราคาสูง ขณะที่ผู้ประกอบการจะต้องรับซื้อผลปาล์มคุณภาพที่น้ำมันดิบ (ซีพีโอ) 18% ขึ้นไปและปฏิเสธซื้อปาล์มอ่อนทุกกรณี

ส่วนการป้องกันการลักลอบน้ำเข้านั้น กรมได้ประสานฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายปกครอง และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ให้ช่วยเฝ้าระวังการลักลอบนำเข้าทั้งน้ำมันปาล์มดิบ และน้ำมันปาล์มเมล็ดใน รวมถึงให้เข้มงวดตรวจสอบการขนย้ายหากพบลักลอบนำเข้า หรือลักลอบขนย้าย ให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด โดยมีโทษจำคุก 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ สำหรับการกดราคารับซื้อหรือหยุดรับซื้อโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร จะมีโทษจำคุก 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากมีเบาะแสหรือพบพฤติกรรมดังกล่าว แจ้งได้ที่สายด่วน1569