- ยานยนต์และการขนส่ง แห่ลงทุนอันดับ1
- เปิดตัว3นิคมอุตสาหกรรมน้องใหม่
- จ้างงานใหม่ 4,655 คน
นางสาวสมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยผลประกอบการ 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2564 (ต.ค.2563- มี.ค.2564) มีมูลค่าการลงทุนรวม 106,146 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีงบประมาณ2563 จำนวน 78,758 ล้านบาท ซึ่งมูลค่าการลงทุนงบประมาณ25 63 ในรอบ 6 เดือนแรก(ต.ค.2562-มี.ค.2563) อยู่ที่ 27,388 ล้านบาท เป็นผลจากการแจ้งเริ่มประกอบกิจการในนิคมอุตสาหกรรมในสังกัดกนอ. ที่ยังคงมีการลงทุนต่อเนื่องและขยายการลงทุนเพิ่ม ชี้ให้เห็นว่านักลงทุนยังคงมีความต้องการขยายการลงทุนต่อเนื่อง
ทั้งนี้กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการขยายตัวในการลงทุนดังกล่าวมีอาทิ อุตสาหกรรมยานยนต์และการขนส่ง , เหล็กและผลิตภัณฑ์โลหะ ,ยางพารา, พลาสติกและหนังเทียม , เครื่องยนต์, อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องมือวิทยาศาสตร์ ทำให้เกิดการจ้างงานใหม่รวมทุกนิคมฯ 4,655 คน
“สำหรับการขายหรือให้เช่าที่ดินในระยะ 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2564 มียอดขายรวม 473 ไร่ ซึ่งลดลงจากช่วงเดียวกันของปีงบประมาณ2563 ที่มีผู้ประกอบการซื้อหรือเช่า 1,398 ไร่ โดยแบ่งเป็นการขาย/เช่าในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) 394 ไร่ และนอกพื้นที่อีอีซี 79 ไร่ ซึ่งยอมรับว่าโควิด-19 ที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ภาพรวมการเช่าหรือซื้อที่ดินของกนอ. จะชะลอตัวลง เนื่องมาจากการระงับเดินทางข้ามประเทศชั่วคราว แต่ความต้องการที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมของกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ด้วยระบบโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐที่ดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม และสามารถจูงใจการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมได้ระดับหนึ่ง
“ที่สำคัญกนอ.ได้มีการเตรียมความพร้อม ของพื้นที่ในนิคมฯ ทั้งที่เป็นนิคมอุตสาหกรรมที่ กนอ.ดำเนินการเอง และนิคมอุตสาหกรรมร่วมดำเนินงานกับภาคเอกชน จำนวน 62 แห่ง ในพื้นที่ 16 จังหวัดทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง และจากนี้ไปก็จะมีนิคมอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นอีก 3 แห่ง โดยได้มีการลงนามในสัญญาร่วมดำเนินงานกับ กนอ.แล้ว และรอการประกาศเป็นเขตอุตสาหกรรมในราชกิจจานุเบกษา ได้แก่ นิคมอุตสาหกรรมโรจนะหนองใหญ่ นิคมอุตสาหกรรมสมาร์ท ปาร์ค และนิคมอุตสาหกรรมเอ็กโก ระยอง เป็นผลให้มีพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมสะสม 177,890 ไร่ เป็นพื้นที่ขาย/ให้เช่า 118,362 ไร่ เป็นพื้นที่ขาย/ให้เช่าแล้ว 90,657 ไร่ จึงยังคงมีพื้นที่คงเหลือสำหรับขาย/ให้เช่าอีก 27,706 ไร่ มีมูลค่าการลงทุนสะสม 4.69 ล้านล้านบาท มีโรงงานในนิคมอุตสาหกรรม 5,080 แห่ง และมีการจ้างงานรวมล่าสุด 548,682 คน”
ทั้งนี้ กลุ่มอุตสาหกรรม 5 อันดับแรกที่เป็นกลไกขับเคลื่อนการลงทุนในนิคมฯ ประกอบด้วย อุตสาหกรรมยานยนต์และการขนส่ง 13.94% ยังคงครองแชมป์การลงทุน รองลงมาคือเหล็กและผลิตภัณฑ์โลหะ 11.69% ยาง พลาสติก และหนังเทียม 7.95%เครื่องยนต์ เครื่องจักรและอะไหล่ 7.2%อปุ๋ย สีและเคมีภัณฑ์ 5.99% โดยนักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่นได้ให้ความสนใจมาลงทุนมากเป็นอันดับหนึ่งมีสัดส่วน 37.36% รองลงมาคือนักลงทุนจากจีน 8.16 % อเมริกา 6.79 % สิงคโปร์ 6.78 % และไต้หวัน 4.11 %
#Thejournalistclub #โควิด19 #การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
