
- ชี้หากไร้เสียงช่วยเหลือจากรัฐ
- เตรียมขนแท็กซี่จอดสถานที่ราชการเพิ่ม
วันที่ 29 ก.ค.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่กลุ่มผู้ขับแท็กซี่ นำรถแท็กซี่เกือบร้อยคัน มาจอดไว้ที่หน้ากระทรวงการคลังและสถานที่ราชการอื่นๆรวม 4 จุด เป็นเวลาทั้งสิ้น 4 วัน ตั้งแต่วันที่ 26 ก.ค.-29 ก.ค.2564 เพื่อเรียกร้องมาตรการช่วยเหลือจากรัฐบาล หลังได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ซึ่งทำให้ไม่มีรายนำมาเลี้ยงชีพ
ล่าสุดนายชื่นชอบ คงอุดม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า วันนี้ได้เชิญกลุ่มแท็กซี่เข้าหารือและรับทราบถึงปัญหาของกลุ่มแท็กซี่แล้ว โดยกรณีเร่งด่วนที่กลุ่มแท็กซี่อยากให้แก้ไขปัญหาคือ 1. บางรายไม่สามารถเข้าร่วมมาตรการพักชำระหนี้ของรัฐได้ เพราะกู้สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์จากสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร หรือ นอนแบงก์ ซึ่งมาตรการของรัฐบาลไม่ครอบคลุม ทำให้กลุ่มแท็กซี่ไม่มีมาตรการช่วยเหลือและยังโดนคิดค่างวดเต็มจำนวน ซึ่งอาจนำไปสู่การถูกยึดรถได้
2.การเข้าถึงมาตรการเยียวยารายบุคคลตามมาตรา 40 ของสำนักงานประกันสังคม ที่ไม่ครบคลุมกลุ่มผู้ขับขี่รถแท็กซี่ เพราะส่วนมากเป็นประชากรแฝง ไม่ได้มีภูมิลำเนาตามทะเบียนบ้านอยู่ในจังหวัดสีแดงเข้ม 13 จังหวัดตามที่รัฐบาลประกาศให้เงินเยียวยา

“ปัญหาค่าเช่าที่จอดรถแท็กซี่ ก็สำคัญ เพราะเจ้าของพื้นที่ยังเก็บค่าเช่าเต็มราคา แต่รถแท็กซี่จอดนิ่งสนิท ไม่มีรายได้ จึงทยอยโดนไล่ที่ ซึ่งในเรื่องนี้กระทรวงการคลังเตรียมประสานกระทรวงคมนาคม เพื่อขอพื้นที่สำหรับจอดรถแท็กซี่ ที่สนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมือง”
ด้านนายวิฑูรย์ แนวพินิช นายกสมาคมการค้าเครือข่ายแท็กซี่ไทย กล่าวว่า ปัจจุบัน มีแท็กซี่ในระบบกว่า 80,000 คัน โดยมีผู้ที่ยังขับขี่ให้บริการอยู่ประมาณ 20,000 คัน ส่วน 60,000 คันที่เหลือยังจอดตามลานจอดต่างๆ โดยเร็วๆนี้ จะมีแท็กซี่กว่า 2,500 คัน ถูกเจ้าของที่ไล่ที่ทำให้จะไม่มีที่จอดรถ และจะทยอยมีรถแท็กซี่ไร้ที่จอดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หากสถานการณ์โควิดยังไม่ดีขึ้น
“ถือว่าวันนี้ กระทรวงการคลังได้รับทราบปัญหาทั้งหมดแล้ว แต่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น ทางกลุ่มจะยังจอดแท็กซี่ไว้ตามสถานที่ราชการแบบนี้ต่อไป และหากไม่มีความคืบหน้า ก็จะมีรถแท็กซี่ทยอยมาจอดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แน่นอน”










