
- ขอความร่วมมือผู้ค้าน้ำมัน คงค่าการตลาดน้ำมันกลุ่มดีเซลไม่เกิน 1.40 บาทต่อลิตร
- ทบทวนการกำหนดราคา LPG ทยอยปรับขึ้นราคาขายส่งหน้าโรงกลั่น ที่ 19.9833 บาทต่อกก.
- วางกรอบเป้าหมายให้ราคาขายปลีก LPG อยู่ที่ประมาณ 408 บาทต่อถัง 15 กก. มีผล 1 ก.ค. -30 ก.ย.65
- ประสาน ปตท. ขยายระยะเวลาช่วยราคาก๊าซ LPG แก่ร้านค้า หาบเร่ แผงลอย
- ขยายเวลาส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้มผู้มีรายได้น้อย ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอีก 3 เดือน โดยขยับเป็น 100 บาท
วันนี้ (15 มิ.ย.65) การประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่มีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน เป็นประธาน โดย นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุม กบง. มีมติเห็นชอบมาตรการเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนจากสถานการณ์ราคาพลังงาน ด้วยจากสถานการณ์ความไม่สงบระหว่างประเทศรัสเซีย และประเทศยูเครนในปัจจุบันได้ส่งผลให้ราคาพลังงานในตลาดโลกอยู่ในระดับสูง และมีความผันผวนอย่างรุนแรง
ล่าสุดที่ประชุมมีมติเห็นชอบมาตรการบรรเทาผลกระทบจากราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็วที่ปรับตัวสูงขึ้นในระยะสั้น ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2565 ถึงวันที่ 30 ก.ย. 2565 โดยกำหนดสัดส่วนการผสมไบโอดีเซลประเภทเมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมันให้เป็นไปตามสัดส่วนการผสมของกลุ่มน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว ดังนี้ น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี7 ไม่ต่ำกว่า 5% และไม่สูงกว่า 7% โดยปริมาตรน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา ไม่ต่ำกว่า 5% และไม่สูงกว่า 10% โดยปริมาตร และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี20 ไม่ต่ำกว่า 5% และไม่สูงกว่า 20% โดยปริมาตร

อีกทั้งยังขอความร่วมมือจากผู้ค้าน้ำมันคงค่าการตลาดน้ำมันเชื้อเพลิงกลุ่มดีเซลหมุนเร็วไม่เกิน 1.40 บาทต่อลิตรโดยที่ประชุมมอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการฯ ประสานสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง นำเสนอคณะกรรมการ กบน. ใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการบริหารจัดการอัตราเงินกองทุนน้ำมันฯ เพื่อให้ค่าการตลาดของน้ำมันเชื้อเพลิงกลุ่มดีเซลหมุนเร็วแต่ละชนิดไม่เกิน 1.40 บาทต่อลิตร และมอบหมายให้ ธพ. ออกประกาศ ธพ. เรื่อง กำหนดลักษณะและคุณภาพของน้ำมันดีเซล (ฉบับที่ ..) พ.ศ. 2565 ให้สอดคล้องกับมาตรการบรรเทาผลกระทบ
นายกุลิศ กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมยังมีมติเป็นชอบมาตรการทบทวนการกำหนดราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ทยอยปรับขึ้นราคาขายส่งหน้าโรงกลั่น LPG 3 ครั้ง ไปที่ 19.9833 บาทต่อกิโลกรัม (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) โดยปรับขึ้นเดือนละ 0.9346 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยมีกรอบเป้าหมายเพื่อให้ราคาขายปลีก LPG อยู่ที่ประมาณ 408 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2565 ถึงวันที่ 30 ก.ย. 2565 โดยที่ประชุมได้มอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการฯ ประสานคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เพื่อพิจารณาบริหารจัดการเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงให้สอดคล้องกับแนวทางการทบทวนการกำหนดราคาก๊าซ LPG ต่อไป

รวมถึงได้มอบหมายให้กรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) ประสาน ปตท. ขอความร่วมมือขยายระยะเวลาช่วยเหลือส่วนลดราคาก๊าซ LPG แก่ร้านค้า หาบเร่ แผงลอยอาหาร ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ ปตท. ดำเนินการอยู่ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2565 ถึงวันที่ 30 ก.ย. 2565
นอกจากนี้ที่ประชุม กบง. มีมติเห็นชอบการขยายระยะเวลาโครงการยกระดับความช่วยเหลือส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม แก่ผู้มีรายได้น้อย ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ อีก 3 เดือน ในช่วงเดือนก.ค.-ก.ย. 2565 โดยมอบหมายให้ ธพ. จัดทำคำขอรับงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นเพื่อใช้สำหรับดำเนินโครงการยกระดับความช่วยเหลือส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้มแก่ผู้มีรายได้น้อย ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ อีก 55 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน เป็น 100 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน ในช่วงเดือนก.ค.-ก.ย.65 สำหรับผู้ใช้สิทธิ์4,000,000 ราย รวมเงินงบประมาณ 220,000,000 บาท
“ที่ประชุมยังเห็นชอบมาตรการบรรเทาผลกระทบจากราคาก๊าซ NGV ที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยให้กระทรวงพลังงานขอความอนุเคราะห์ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) คงราคาขายปลีกก๊าซ NGV ที่ 15.59 บาทต่อกิโลกรัม และคงราคาขายปลีกก๊าซ NGV โครงการเอ็นจีวี เพื่อลมหายใจเดียวกัน ให้กับผู้ประกอบอาชีพขับขี่รถแท็กซี่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่ 13.62 บาทต่อกิโลกรัม ต่อไปอีกเป็นระยะเวลา 3 เดือน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 16 มิ.ย. 2565 ถึงวันที่ 15 ก.ย. 2565” นายกุลิศ กล่าว










