

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (21 พ.ย.63) นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าคณะก้าวหน้า โพสต์ว่า การที่เขาจะเป็นคนดีหรือไม่ดี อยู่ที่ว่าใครเป็นคนพูดนั้นว่า อยากให้นายธนาธร ย้อนกลับไปสำรวจพฤติกรรมตนเอง ตั้งแต่เข้ามาเล่นการเมือง สิ่งที่เกิดขึ้นล้วนเกิดจากการกระทำของนายธนาธรเอง และพวกแทบทั้งสิ้น
โดยนายสุภรณ์ กล่าวว่า การที่นายธนาธร ไม่ได้ลาออกจากการเป็นเจ้าของกิจการที่ทำธุรกิจสื่อก่อนลงสมัคร แล้วไปสร้างหลักฐานเท็จต่อศาล จนต้องพาแม่ เมีย ไปขึ้นศาลอย่างน่าเวทนานั้น เพราะการกระทำที่ทุจริตของตัวนายธนาธรเองแทบทั้งสิ้น และการที่ศาลตัดสิทธิ์นายธนาธร ยุบพรรคอนาคตใหม่ และกกต.ดำเนินคดีเรื่องเงินกู้ ก็เกิดจากการเปิดเผยของนายธนาธรเอง เป็นการกระทำที่กฎหมายห้ามมิให้กระทำแทบทั้งสิ้น ดังนั้นจะบอกว่า คนอื่นกลั่นแกล้งหรือมีขบวนการขัดขวางไม่ให้นายธนาธร เป็นใหญ่บนเส้นทางการเมืองนั้นไม่ได้
“อยากยกภาษิตคำโบราณ มาเตือนสตินายธนาธรหน่อยว่า การกระทำของตนเอง หากกระทำชั่ว คิดไม่ดีต่อสถาบันต่อให้ใครพูดหรือใครมอง เขาก็มองว่านายธนาธร เป็นคนไม่ดีทั้งนั้น กลองดีต้องมีคนตีถึงจะดัง แต่ถ้ากลองไม่มีคนตีแต่ดังเอง เขาเรียกว่า กลองจัญไร นายธนาธร เป็นคนเช่นนั้นหรือไม่ ประชาชนทุกคนทราบดี”
นายสุภรณ์ ยังกล่าวถึงกรณี นายอานนท์ นำภา แกนนำคณะราษฎร 63 ประกาศไม่กลัว มาตรา 112 นั้นว่า กฎหมายไม่ได้มีไว้ให้คนดีกลัว แต่กฎหมายมีไว้จัดการคนไม่ดี ใครจะกลัวหรือไม่กลัว หรือจะบอกว่า อย่าเอาผีมาหลอกคนไม่กลัวผีนั้น ไม่เป็นไร เพราะกรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา หากนายอานนท์ อยากลองดีกับมาตรา 112 ก็ไม่มีใครห้าม กฎหมายมาตรา 112 มีไว้ใช้กับคนที่ชั่วช้า เลวทราม ก้าวล่วง จาบจ้วง สถาบันเท่านั้น ก็จะได้รู้คนที่ไม่กลัวผี อาจจะถูกผีหักคอตายเร็วๆนี้ ก็ได้ใครจะไปรู้
“ถ้าเป็นสมัยก่อน การใส่ร้าย ดูหมิ่น สถาบันเบื้องสูง การคิดไม่ดี การบิดเบือนต่อสถาบัน โทษสถานเดียวคือเอาไปตัดหัว หากนายอานนท์ เกิดทันยุคนั้น ป่านนี้หัวน่าจะหลุดจากบ่าไปแล้ว สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์รวมจิตใจคนไทยทั้งชาติ และทำให้คนไทยสามัคคีกลมเกลียวกันตลอดมา นายอานนท์และพวกยังกล้าบังอาจคิดล้มล้างสถาบันฯกระทำอันชั่วช้ามิบังควร คนไทยที่รักเทิดทูนยอมไม่ได้เด็ดขาด การกระทำแบบถ่อยๆเลวทรามที่สุดของนายอานนท์และแกนนำกลุ่มคณะราษฎร ไม่มีวันที่จะพ้นมือของกฎหมายอย่างแน่นอน”
ทั้งนี้หากรัฐบาลจะใช้มาตรา 112 มาดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุมนั้น ก็ถือว่าเป็นไปตามกฎหมายอย่างถูกต้อง โดยไม่ใช่เป็นการขมขู่ ซึ่งนายอานนท์ ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็น ทนาย ย่อมรู้กฎหมายเป็นอย่างดี และก็ย่อมรู้ดีว่าการเคลื่อนไหวการชุมนุมได้สร้างความเดือดร้อน ทำลายทรัพย์สินราชการและทำผิดกฎหมาย รวมถึงมีพฤติกรรมจาบจ้วงสถาบันอย่างมาก ดังนั้นทนายอานนท์ อย่าทำเป็นตีมึน ไม่รู้กฎหมาย
อย่างไรก็ตาม การที่รัฐบาลบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังกับผู้ชุมนุมที่กระทำผิดจริง ก็อย่ามาร้องว่าถูกรังแก หรือเรียกร้องความสงสาร โดยที่ไม่ดูตัวเองว่าทำผิดอะไรบ้าง จะเอาแต่ได้ฝ่ายเดียว จนไม่ยอมรับหรือฟังเสียงของคนอื่นแบบนี้มองว่าไม่ใช่ประชาธิปไตยตามที่ผู้ชุมนุมอ้าง แต่เป็นการเรียกร้องประชาธิปไตยแบบถ่อยๆเลวทรามเช่นนี้ คนไทยไม่มีวันยอมให้มีที่ยืนบนผืนแผ่นดินไทยแน่นอน