

- เผยนายกฯ ได้รับทราบสถานการณ์ประเทศเป็นอย่างดี ว่าขณะนี้เป็นอย่างไร
- ลั่นต้องพยายามรักษาสมดุลระหว่างสุขภาพ-ปากท้องของประชาชนทุกกลุ่ม
- พร้อมเอ่ยถึง “อรุณี” หน้าตาดูสวยดี แต่ความคิดไม่สวยเหมือนหน้าตา
- แนะให้ลองไปฟังกระแสตอบรับจากประชาชนดูบ้าง
วันนี้ (18 มิ.ย.64) นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ น.ส.อรุณี กาสยานนท์โฆษกพรรคเพื่อไทย ได้วิพากษ์วิจารณ์กล่าวถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ถึงการเตรียมเปิดประเทศใน 120 วัน โดยถามถึงความเสี่ยง และความพร้อมของการฉีดวัคซีนครบหรือยังนั้น นายเสกสกล ระบุว่า นายกฯ ได้รับทราบสถานการณ์ประเทศเป็นอย่างดีว่าขณะนี้เป็นอย่างไร เพราะนายกฯ ได้ทำงานแก้ไขปัญหาสถานการณ์โควิด-19 มาโดยตลอด มีการพิจารณาทั้งปัจจัยภายในและภายนอกควบคู่กันไป รวมทั้งพยายามรักษาสมดุลระหว่างสุขภาพและปากท้องของพี่น้องประชาชนทุกกลุ่ม
ทั้งนี้ที่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ออกแถลงการณ์เตรียมเปิดประเทศในอีก 120 วันนั้น เริ่มจากจังหวัดภูเก็ต ก็ทราบดีว่ารัฐบาลเตรียมที่จะทำอะไรอยู่ ซึ่งแม้จะยอมรับว่ามีความเสี่ยงอยู่บ้างจากการระบาดของเชื้อโควิด-19 แต่นายกฯ ก็อยากให้เศรษฐกิจของประเทศมีการฟื้นตัวขึ้น เพราะทุกอย่างต้องมีแผน ต้องเตรียมการล่วงหน้า ต้องมีเป้าหมายร่วมกันของทุกภาคส่วน ไม่ใช่อยู่อย่างหวาดผวาจนเกินเหตุ จนละทิ้งความกล้าเผชิญหน้าอย่างมีเหตุผล และมีความรู้เท่าทันสถานการณ์
นายเสกสกล กล่าวต่อว่า การประกาศเปิดประเทศของนายกฯนั้น ตนเองก็มั่นใจว่านายกฯ ไม่ได้คิดเอง แต่อยู่ในฐานะผู้นำที่จะต้องตัดสินใจนำพาประเทศไปสู่สิ่งที่ดีกว่า หรือดีที่สุด บนพื้นฐานของการศึกษาข้อมูลอย่างรอบด้าน จากคณะที่ปรึกษาต่างๆ โดยเชื่อมั่นว่าจากนี้ไปจนถึง 120 วัน นายกฯ ทีมรัฐบาล บุคลากรทางการแพทย์ และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะร่วมกันหารือเพื่อหามาตรการให้รัดกุมมากที่สุดก่อนที่จะเปิดประเทศ โดยจะมีการประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเป็นรายวัน
”ส่วนตัวเชื่อว่าเมื่อถึงเวลานั้น นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่น่าจะได้ฉีดวัคซีนครบแล้ว เช่นเดียวกันกับคนไทยที่ ศบค.ยืนยันแล้วว่าภายในเดือนต.ค.2564 นี้ คนไทยจะต้องได้ฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 จำนวน 50 ล้านคน ซึ่งถือเป็นไปตามเป้าหมายที่ได้วางเอาไว้ เพราะแผนการจัดหาก็บรรลุตามเป้า 100 ล้านโดสแล้ว นอกจากนี้ ที่นายกฯ อยากให้เปิดประเทศ เพราะจะต้องคิดถึงความอยู่รอดในการทำมาหากินของพี่น้องประชาชนด้วย และเพื่อฟื้นฟูประเทศ ให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้” นายเสกสกล กล่าว
ทั้งนี้หากโฆษกพรรคเพื่อไทย หรือแม้แต่คนในพรรคเพื่อไทย หากไม่อยากจะช่วยเหลือประชาชนและประเทศชาติ ตนก็ขอย้ำอีกครั้งว่า มือไม่พายอย่าเอาเท้าราน้ำ ขัดขวางไปทุกเรื่อง ซึ่งแม้ว่านายกฯ และรัฐบาล จะทำดีแค่ไหน และเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติ ทางพรรคเพื่อไทยก็จะออกมาตำหนิ ขัดขวาง และจะสนใจเฉพาะผลประโยชน์ทางการเมืองของตัวเอง อาศัยจังหวะที่ประเทศเกิดวิกฤตเรียกร้องให้นายกฯ ลาออก เพราะยังมีความหวังว่าจะเข้าไปเป็นรัฐบาล ซึ่งตนเองก็ไม่เข้าใจว่าเหตุใดคนของพรรคเพื่อไทย ถึงไม่อยากให้ประเทศพ้นวิกฤตตรงนี้ให้ได้ก่อน
“โฆษกพรรคเพื่อไทย น.ส.อรุณี หน้าตาดูสวยดี แต่ความคิดกลับดูไม่สวยงามเหมือนหน้าตาเอาเสียเลย ไม่ลองหัดไปฟังกระแสตอบรับจากประชาชนดูบ้างว่า สิ่งที่นายกฯ ต้องการเปิดประเทศเพื่อเศรษฐกิจฟื้นกลับคืนสู่ภาวะปกติ เป็นสิ่งที่ดีที่จะทำให้ประเทศไทยรอดพ้น แต่โฆษกพรรคเพื่อไทยกลับไม่เห็นด้วย น่าเสียดายความคิดที่ดูไม่สวยงามเอาเสียเลย ตนขอถามกลับสักคำ ความคิดสั้นๆ แคบๆ เพียงแค่นี้ เป็นความคิดส่วนตัว หรือเป็นมติพรรคเพื่อไทย ตนจะได้ป่าวประกาศให้คนไทยได้รับรู้ว่า พรรคเพื่อไทยไม่เอาด้วย เพราะไม่อยากให้ประชาชนกลับมามีชีวิตที่ดีขึ้น พรรคเพื่อไทยไม่ต้องการให้เศรษฐกิจดีขึ้น และพรรคเพื่อไทยไม่ต้องการให้คนไทยพ้นภัยจากเชื้อโควิดร้าย ต้องการให้ประชาชนสาปแช่งพรรคเพื่อไทยใช่ไหม จึงกล้าออกมาคัดค้านไม่เห็นด้วยกับนโยบายเปิดประเทศภายใน 120 วันในครั้งนี้ น่าอับอายขายหน้าแทนผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อไทยที่สุด” นายเสกสกล กล่าว