แรงขายทำกำไรกดดัชนีดาวโจนส์ลบ 123จุด



.นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี-ธนาคาร เก็งผลประกอบการไตรมาส1
.ตลาดจับตาการรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ทยอยประกาศเพิ่ม
.ตลาดติดตามการประชุมเฟด -แนวโน้มเศรษฐกิจฟื้นตัว

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 19 เม.ย.ที่ 34,077.63 จุด ลดลง 123.04 จุด หรือ -0.36% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 4,163.26 จุด ลดลง 22.21 จุด หรือ -0.53% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 13,914.77 จุด ลดลง 137.58 จุด หรือ -0.98%

นักวิเคราะห์จากบริษัทสปาร์แทน แคปิตอล ซิเคียวริตีส์ในรัฐนิวยอร์กกล่าวว่า นักลงทุนชะลอการซื้อขายหลังจากตลาดพุ่งทำนิวไฮในสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ ยังมีนักลงทุนบางกลุ่มยังเทขายทำกำไร ก่อนที่บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่จะเปิดเผยผลประกอบการ

รวมทั้งขายหุ้นกลุ่มธนาคาร เพื่อทำกำไร หลังผลประกอบการประกาศออกมาดีเกินคาด โดนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลงแรงเป็นปัจจัยฉุดตลาดปิดในแดนลบ

หุ้นไมครอน เทคโนโลยี ดิ่งลง 2.48% หุ้นอินเทล ร่วงลง 1.73% หุ้นไมโครซอฟท์ ลดลง 0.77% หุ้นแอมะซอนดอทคอม ลดลง 0.8% หุ้นเฟซบุ๊ก ร่วงลง 1.29% หุ้น Nvidia ดิ่งลง 3.46%

หุ้นเทสลา ร่วงลง 3.4% หลังมีรายงานผู้เสียชีวิต 2 รายจากอุบัติเหตุรถยนต์เทสลาพุ่งชนต้นไม้และไฟลุกท่วมในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ขณะที่การตรวจสอบเบื้องต้นระบุว่า ผู้ขับขี่รถยนต์เทสลาได้ตั้งโหมดขับขี่อัตโนมัติก่อนที่รถจะประสบอุบัติเหตุ

หุ้นกลุ่มสินค้าผู้บริโภคปรับตัวลง ก่อนที่บริษัทผู้จำหน่ายสินค้าผู้บริโภคหลายแห่งจะเปิดเผยผลประกอบการ โดยหุ้นฟิลลิป มอร์ริส อินเตอร์เนชันแนล ร่วงลง 1.35% หุ้นไทสัน ฟู้ดส์ ปรับตัวลง 0.46% หุ้นคิมเบอร์ลีย์-คล้าค ลดลง 0.17% หุ้นพร็อคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (P&G) ลดลง 0.44%

หุ้นกลุ่มธุรกิจบล็อกเชนร่วงลงหลังจากราคาบิตคอยน์ทรุดตัวลงอย่างหนักในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยหุ้น Riot Blockchain ดิ่งลง 8.38% หุ้น Marathon Patent ร่วงลง 8.68 % หุ้น Silvergate Capital ร่วงลง 5.95%

อย่างไรก็ตาม หุ้นที่เปิดเผยผลประกอบการดีดีดตัวขึ้น โดยหุ้นโคคา โคล่า ดีดตัวขึ้น 0.47% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรในไตรมาส 1 ที่ระดับ 55 เซนต์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 50 เซนต์/หุ้น

หุ้นฮาร์ลีย์-เดวิดสัน ผู้ผลิตมอเตอร์ไซค์รายใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้น 9.68% หลังบริษัทเปิดเผยกำไรในไตรมาส 1 ที่ระดับ 1.68 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 88 เซนต์/หุ้น

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 27-28 เม.ย. หลังเฟดเปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 16-17 มี.ค. โดยระบุว่า เฟดจะยังคงใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไปจนกว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวอย่างยั่งยืน รวมทั้งติดตามตัวเลขเศรษฐกิจอื่นๆ ที่จะประกาศในสัปดาห์นี้ เพื่อมองแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ