
- ซื้อผ่านวอลเล็ต สบม.อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 1.80% ต่อปี
- ซื้อผ่านธนาคารตัวแทนจำหน่าย อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 1.90% ต่อปี
- หวังนำเงินหนุนโครงการรัฐ เช่น คนละครึ่ง ยิ่งใช้ยิ่งได้ เติมเงินบัตรสวัสดิการ
วันที่ 25 มิ.ย.2564 นางแพตริเซีย มงคลวนิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่ากระทรวงการคลังจะเริ่มจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์พิเศษรุ่น “ยิ่งออมยิ่งได้” วงเงินรวม 50,000 ล้านบาท แบ่งเป็น ขายผ่านวอลเล็ต สบม. บนแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” เป็นแห่งแรกในวันที่ 5 ก.ค. 2564 จำนวน 10,000 ล้านบาท และจำหน่ายผ่านธนาคารตัวแทนจำหน่าย ในวันที่ 12 ก.ค.2564 เป็นต้นไป จำนวน 40,000 ล้านบาท
“วัตถุประสงค์ในการระดมทุนครั้งนี้เพื่อบรรเทาผลกระทบ และฟื้นฟูเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ตามรัฐบาลออกโครงการต่างๆ มาเช่น คนละครึ่ง ยิ่งใช้ยิ่งได้ และการเติมเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยการออกพันธบัตรครั้งนี้ใช้วงเงินจากพระราชกำหนด(พ.ร.ก.) เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท”
สำหรับการจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์พิเศษ รุ่นยิ่งออมยิ่งได้ ผู้ลงทุนสามารถเลือกลงทุนได้ทั้งผ่านวอลเล็ต สบม. บนแอปพลิเคชันเป๋าตัง และธนาคารตัวแทนจำหน่ายตามความสะดวก รายละเอียดเป็นดังนี้
1.รุ่นยิ่งออมยิ่งได้บนวอลเล็ต สบม. วงเงินจำหน่าย 10,000 ล้านบาท รุ่นอายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยแบบขั้นบันได (Step-up) เฉลี่ย 1.80% ต่อปี ซื้อได้ตั้งแต่อายุ 15 ปีขึ้นไป (ผู้เยาว์จะต้องลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง และไปยืนยันตัวตนพร้อมผู้ปกครองเพื่อกรอกเอกสารให้ความยินยอมฯ ณ สาขาธนาคารกรุงไทยสำหรับการซื้อครั้งแรก) วงเงินตั้งแต่ 100 บาท – 10 ล้านบาท
ทั้งนี้จ่ายดอกเบี้ยเป็น 4 ครั้งต่อปี โดยจะจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 5-23 ก.ค. 2564 ผู้สนใจสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเป๋าตังเพื่อลงทะเบียน ยืนยันตัวตน โอนเงินเข้าวอลเล็ต สบม.ผ่านพร้อมเพย์จากทุกธนาคารหรือ ผูกบัญชีธนาคารกรุงไทยเพื่อเตรียมซื้อพันธบัตรได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลการใช้งานวอลเล็ตสบม. ได้ที่ Call Center โทร. 02-111-1111 หรือที่ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา
“เพื่อจูงใจให้ประชาชนซื้อพันธบัตรมากขึ้น จึงได้เพิ่มวงเงินซื้อพันธบัตรให้สามารถซื้อได้สูงสุด 10 ล้านบาท/ราย จ่ายดอกเบี้ยถี่ขึ้นเป็น 4 ครั้งต่อปี หรือทุกๆ 3 เดือน ทำให้สามารถนำเงินไปใช้จ่ายได้รวดเร็วขึ้น นอกจากนี้ สบน.ยังได้จับมือกรมสรรพากร ยกระดับบริการด้านภาษีบนวอลเล็ต สบม. โดยประชาชนสามารถตรวจสอบและดาวน์โหลดเอกสารหักภาษี ณ ที่จ่ายของผู้ลงทุน จากวอลเล็ต สบม. และข้อมูลนี้จะถูกส่งไปยังกรมสรรพากรอัตโนมัติจึงไม่จำเป็นต้องเก็บเอกสารดังกล่าวให้ยุ่งยากเพื่อประกอบการยื่นขอคืนภาษี ณ สิ้นปีอีกต่อไป”
2.รุ่นยิ่งออมยิ่งได้ วงเงินจำหน่าย 40,000 ล้านบาท ซึ่งจำหน่ายผ่าน 4 ธนาคารตัวแทนจำหน่าย ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ ทั้งในช่องทาง Counter, Internet Banking และ Mobile Banking ของ 4 ธนาคารตัวแทนจำหน่าย วงเงินขั้นต่ำ 1,000 บาทและซื้อได้ไม่จำกัดวงเงินซื้อ จ่ายดอกเบี้ย 2 ครั้งต่อปี และจำหน่ายพร้อมกันทั้งประชาชนและนิติบุคคลไม่แสวงหากำไรตามที่กระทรวงการคลังกำหนด โดยหากเป็นผู้เยาว์ต้องมีบัญชีธนาคารตัวแทนจำหน่ายและได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองก่อน และจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 12-23 ก.ค.2564
โดยวงเงินและรุ่นอายุที่จำหน่ายดังนี้ 1.ประชาชนทั่วไป วงเงิน 35,000 ล้านบาท จำหน่ายรุ่นอายุ 4 ปี อัตราดอกเบี้ยแบบขั้นบันได (Step Up) อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 1.90% ต่อปี และ2.นิติบุคคลไม่แสวงหากำไรตามที่กระทรวงการคลังกำหนด วงเงิน 5,000 ล้านบาท จำหน่ายรุ่นอายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 2.20% ต่อปี
สำหรับวงเงินรุ่นยิ่งออมยิ่งได้ที่จำหน่ายบนวอลเล็ต สบม. และธนาคารตัวแทนจำหน่ายไม่นับรวมกัน ผู้ลงทุนจึงสามารถลงทุนได้ทั้ง 2 ช่องทาง และกระทรวงการคลังสามารถปรับเพิ่ม/ลดวงเงินของผู้มีสิทธิซื้อทั้ง 2 กลุ่ม ในรุ่นยิ่งออมยิ่งได้ที่จำหน่ายผ่านธนาคารตัวแทนจำหน่ายได้ตามความเหมาะสม
“สบน.ได้ปรับอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรทั้ง 2 รุ่น ให้สอดคล้องกับทิศทางดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มสูงขึ้น ส่วนอนาคตหากดอกเบี้ยแพงขึ้นจะเป็นต้นทุนทางการเงินให้กับสบน. หรือไม่นั้น ที่ผ่านมาสบน. กู้เงินในอัตราดอกเบี้ยคงที่ การปรับพอร์ตเก่าจะไม่มีปัญหา ส่วนหากอนาคตดอกเบี้ยสูงขึ้นต้นทุนก็จะแพงขึ้น อย่างไรก็ตามต้องติดตามเหตุการณ์ช่วงนั้นว่าดอกเบี้ยจะขึ้นมามากน้อยเพียงใด แต่ตอนนี้ต้องบริหารตามเครื่องมือมีอยู่อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่าดอกเบี้ยในอนาคตจะสูงขึ้น เพราะที่ผ่านมาอัตราดอกเบี้ยในตลาดค่อนข้างต่ำ แต่ก็เชื่อว่าคงไม่เพิ่มสูงขึ้นเท่ากับในอดีตที่ผ่านมา”










