

เจ้าสัว “เจริญ” ร่ำรวยที่สุดในไทย ตามด้วย “สารัชถ์” และ “ธนินท์” จากทำเนียบบลูมเบิร์ก 500 มหาเศรษฐีโลก จากผลพวงวิกฤตไวรัสโควิด เหลือคนไทยติดอันดับแค่ 3 คน
- เจฟ เบซอส แห่งอเมซอน ผงาดอันดับหนึ่ง มีทรัพย์สินถึง 4.41 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 7.6 แสนล้านบาท เหตุธุรกิจอีคอมเมิร์ชไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์ไวรัส และมูลค่าหุ้นเพิ่มขึ้น 5.3%
- ไวรัสโควิด-19 สร้างผลกระทบความมั่งคั่งของมหาเศรษฐี 500 อันดับหดหายไปรวมกันถึง 18 ล้านล้านบาท
เว็บไซต์บลูมเบิร์กดอทคอมรายงานเมื่อวันที่ 15 เมษายน 2563 ถึงดัชนีมหาเศรษฐีบลูมเบิร์กหรือ The Bloomberg Billionaires Index ถึงการจัดอันดับบุคคลร่ำรวยที่สุด 500 ของโลกซึ่งเป็นการจัดอันดับแบบรายวันอัพเด็ทตามการซื้อขายในตลาดทรัพย์ทรัพย์นิวยอร์ค ซึ่งล่าสุดตามเวลาช่วงเช้าของประเทศไทย มีเจ้าสัวจากประเทศไทย ติดอันดับ 3 คือ นายเจริญ สิริวัฒนภักดี เจ้าของอาณาจักรไทยเบฟ ร่ำรวยที่สุดในไทย อยู่ในลำดับที่ 80 ของโลก มีทรัพย์สินรวม 13,700 ล้านดอลลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ (อัตรา1ดอลลาร์ 32.50) 445,250 ล้านบาท ทรัพย์สินลดลง 5,910 ล้านดอลลาร์หรือจนลงประมาณ 192,075 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
สำหรับอันดับสองของคนไทยที่ร่ำรวยที่สุดคือ สารัชถ์ รัตนาวะดี แห่ง GULF Energy ธุรกิจพลังงาน อยู่ในอันดับที่ 177 ของมหาเศรษฐีโลก มีทรัพย์สิน 8,410 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 273,325 ล้านบาท ในปีนี้ทรัพย์สินลดลง 340 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 11,050 ล้านบาท
ด้านนายธนินท์ เจียรวนนท์ แห่งเครือเจริญโภคภัณฑ์ ตามมาเป็นอันดับสามและอยู่ในอันดับที่ 440 ของทำเนียบบลูมเบิร์ก มีทรัพย์สิน 4,340 ล้านดอลลาร์หรือราว 141,050 ล้านบาท ลดลง 1,450 ล้านบาท หรือประมาณ 47,125 ล้านบาท
ทั้งนี้ บลูมเบิร์กระบุว่า ในช่วงวิกฤตไวรัสโควิด-19 นี้สร้างผลกระทบกับเศรษฐกิจทั่วโลก ทำให้มหาเศรษฐี 500 อันดับโลกจนลงถึง 5.53 แสนล้านดอลลาร์ หรือราว 18 ล้านล้านบาท แต่ก็เพิ่มขึ้น 20% จากจากหลังถึงจุดต่ำสุดณ ว้นที่ 23 มีนาคม
โดย “เจฟ เบซอส” แห่งอเมซอน ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ช ยังคงเป็นมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลกมีทรัพย์สินถึง 138,500 ล้านดอลลาร์ หรือร่ำรวยถึง 4.41 ล้านล้านบาท ร่ำรวยเพิ่มขึ้นถึง 23,600 ล้านดอลลาร์หรือประมาณ 767,000 ล้านบาท จากมูลค่าหุ้นของอเมซอน เพิ่มขึ้นถึง 5.3% ไม่ได้รับผลกระทบกับวิกฤตการณ์