

- สั่ง สคบ.ดูแลผู้บริโภคที่เจอภัยโควิด-19
- ให้เจรจาเจ้าของโครงการช่วยลูกค้า
- ช่วยสร้างภาพลักษณ์ทำธุรกิจ
นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (คคบ.) ว่า ที่ประชุมคคบ. ได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ไปหารือกับเอกชนในภาคอสังหาริมทรัพย์ เช่น สมาคมบ้านจัดสรร และสมาคมอาคารชุดไท โดยเร็วที่สุด เพื่อขอความร่วมมือดูแลผู้บริโภคที่ไปซื้อบ้าน หรือคอนโดมิเนียม ที่บางรายอาจได้รับความเดือดร้อนจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 อาจถึงขั้นตกงาน และไม่มีเงินซื้อแม้จะวางเงินจองและผ่อนชำระไปแล้ว จึงต้องการให้ผู้ประกอบการเห็นใจและช่วยเหลือดูแลผู้บริโภค ซึ่งสคบ.ต้องจัดทีมลงไปหารือและเจรจากับผู้บริหารทั้งเจ้าของโครงการ หรือตัวแทนสมาคมที่เกี่ยวข้องกับภาคอสังหาริมทรัพย์ให้หันมาดูแลผู้บริโภค ซึ่งช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์สินค้าด้วย
“ที่ผ่านมามีผู้บริโภคมาร้องเรียนกับสคบ.จำนวนมาก และในช่วงที่ประชาชนได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 จะมีเรื่องร้องเรียนอีกมากแน่นอน โดยเฉพาะการซื้อบ้าน ผู้บริโภคบางคนวางเงินจองไปแล้ว ขอสินเชื่อไม่ผ่านและถูกยึดเงินนั้นไป ในสถานการณ์อย่างนี้ หลายคนประสบปัญหา บางคนตกงาน บางคนไม่มีงานทำ บางคนมีรายได้ลดลง เงินต่างๆ เหล่านี้ที่ไปจองซื้อบ้านอาจจ่ายไม่ได้ สคบ.จึงต้องดูแลประชาชนให้มากที่สุด ถ้าร้องเรียนมาต้องเร่งรัดให้เร็ว และดำเนินการให้ดีที่สุดด้วย”
ส่วนปัญหาการด้านการซื้อ-ขายสินค้าออนไลน์นั้น ที่ผ่านมาอาจมีปัญหาเกิดขึ้นเพราะผู้บริโภคส่วนใหญ่ร่วมมือกับรัฐบาลอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ เด็กๆ ก็เรียนหนังสือทางออนไลน์ หลายคนก็เข้าไปสั่งซื้อสินค้าออนไลน์จำนวนมาก เรื่องทั้งหมดนี้รัฐบาลได้รับทราบถึงปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นแล้ว และได้สั่งให้ สคบ. ร่วมมือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบการซื้อ-ขายสินค้าในทุกเว็บไซต์ โดยไม่ต้องรอให้ผู้บริโภคมาร้องเรียนจนเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมา หากเว็บไซต์ที่ขายสินค้าไม่มีคุณภาพ หลอกลวง หรือขายสินค้าที่ผิดกฎหมาย ก็ให้เร่งดำเนินคดีทันที
นอกจากนี้ ที่ประชุม คคบ.มีมติให้ดำเนินคดีกับผู้ประกอบธุรกิจ ทั้งด้านอสังหาริมทรัพย์ ด้านสินค้าและบริการ และด้านโฆษณา รวม 15 กรณี โดยเฉพาะการสั่งให้ดำเนินคดีทางแพ่งเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายคืนให้บริโภคที่ไปใช้บริการสายการบินชื่อดัง 3 สายการบิน ที่ไม่ยอมคืนเงินให้ผู้บริโภคที่ไม่สามารถเดินทางได้ช่วงเกิดการระบาดของโควิด