

ปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยขณะนี้ ถือได้ว่ายังคงน่าเป็นห่วง ยังคงพบผู้ติดเชื้อกระจายตัวในหลายจังหวัดเป็นตัวเลขที่สูงพอสมควร ซึ่งเวลานี้สิ่งที่ประชาชนคนไทยทุกคนจะร่วมกันทำได้คือ“การดำเนินชีวิตแบบวิถีใหม่” (นิวนอร์มอล)
โดยลดการพบปะบุคคลอื่นหากไม่มีเหตุจำเป็น สวมใส่หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างทางสังคม ลดการเดินทางออกนอกบ้าน ล้างมือให้บ่อยครั้ง แน่นอนก็จะช่วยลดการแพร่ระบาดของเชื้อร้ายลงได้
ทั้งนี้ในยุคที่ผู้คนต่างต้องดำเนินชีวิตวิถีใหม่เช่นนี้ ก็ยังมีอีกหลายคนต้องออกมานอกบ้าน เดินทางเพื่อดำเนินชีวิตในแต่ละวันอยู่ ทั้งทำเพื่อหน้าที่ อาทิ ทีมแพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ ที่ต้องออกมาเป็นนักรบสู้กับเชื้อโควิด-19

รวมถึงกลุ่มที่ต้องออกมาทำงาน อย่างกลุ่มข้าราชการที่ต้องมาให้บริการประชาชน พนักงานธนาคาร การไฟฟ้า การประปา บริษัทให้บริการอินเตอร์เน็ต ที่ต้องคอยบริการอำนวยความสะดวกให้พี่น้องประชาชน
แน่นอนกลุ่มคนเหล่านี้ที่กล่าวมา ต่างต้องมีการเดินทาง ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้หลายคนก็เลือกที่จะขับยานพาหนะส่วนตัวมาทำงาน เพื่อลดการสัมผัสและเว้นระยะห่างจากบุคคลอื่นๆ
แต่ในรูปแบบการเดินทางที่เปลี่ยนไปเช่นนี้ หากมองในแง่ดี ก็ถือเป็นโอกาสดีที่ทางภาครัฐจะได้พัฒนาระบบขนส่งสาธารณะได้อย่างเต็มที่ เพื่อเตรียมตัวไว้รองรับการเดินทางที่จะกลับมาเป็นเช่นเดิม

โดยเฉพาะการเดินทางของผู้คนในกรุงเทพฯ ที่ส่วนใหญ่ต่างต้องพึ่งพาระบบขนส่งมวลชนเป็นการเดินทางในชีวิตประจำวัน ซึ่งระบบขนส่งทางรางอย่างรถไฟฟ้าก็ติดอันดับยอดฮิต เนื่องจากกำลังเวลาเดินทางได้ และหลีกเลี่ยงการจราจาที่แสนติดขัดได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ การเดินทางด้วยระบบขนส่งทางอากาศ ก็เป็นอีกหนึ่งการเดินทาง ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ก่อนที่เหตุการณ์เชื้อโควิดจะระบาด โดยหลายสนามบินในไทยต่างต้องขยายอาคารผู้โดยสารเพิ่ม เพื่อรองรับการใช้บริการที่คึกคัก ทั้งเดินทางภายในประเทศ และไปต่างประเทศ

ร.ท.สัมพันธ์ ขุทรานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่เมื่อต้นเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา ท่าอากาศยานดอนเมือง ได้เปิดให้บริการทางเดินลอยฟ้า (SKY WALK) เชื่อมต่อโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ – รังสิต สถานีดอนเมือง เข้ามายังสนามบินดอนเมือง ที่บริเวณชั้น 2 อาคารจอดรถยนต์ 7 ชั้น และเชื่อมต่อไปยังอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ อาคาร 2 ซึ่งจะเปิดให้บริการในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ตั้งแต่เวลา 06.30 น. – 20.00 น.
สำหรับทางเดินลอยฟ้าของ ทดม.เริ่มตั้งแต่แนวเขตรั้ว ทดม. และเรียบขนานไปกับแนวรั้วของ ทดม. และเลี้ยวขวาเพื่อเชื่อมต่อเข้ากับทางเดินบริเวณ ชั้น 2 อาคารจอดรถยนต์ 7 ชั้น มีขนาดความกว้างถึง 6 เมตร ความยาว 110 เมตรพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ อันได้แก่ ป้ายบอกทาง ระบบไฟฟ้าแสงสว่าง กล้องวงจรปิด ระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ ทางหนีไฟ เพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้มาใช้บริการ และเตรียมพร้อมหากมีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้น

นอกจากนี้ ยังติดตั้งระบบปรับอากาศตลอดทางเดิน รวมถึงยังมีทางลาด พร้อมลิฟต์ 1 ตัว เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้พิการและผู้สูงอายุให้ง่ายต่อการมาใข้บริการ รวมทั้งยังมีบันไดเดินลงระดับพื้นถนน สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางต่อด้วยรถโดยสารสาธารณะบริเวณริมถนนวิภาวดีรังสิตอีกด้วย
“ทาง ทดม.มั่นใจว่าทางเดินลอยฟ้าดังกล่าวนี้ จะสามารถช่วยอำนวยความสะดวก และความปลอดภัยในการเดินทางมายังอาคารผู้โดยสารให้กับผู้ใช้บริการรถไฟชานเมืองสายสีแดงได้เป็นอย่างดี” ร.ท.สัมพันธ์ กล่าว
ร.ท.สัมพันธ์ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันตัวเลขผู้โดยสารที่มาใช้บริการที่สนามบินดอนเมืองลดลงไปเป็นอย่างมาก เหตุเพราะสถานการณ์โควิด-19 ที่ระบาดระลอกที่ 3 นี้ หรือเฉลี่ยแล้วมีผู้มาใช้บริการประมาณ 10,000 คนต่อวัน ซึ่งบางวันก็มีผู้โดยสารมาใช้บริการเพียง 3,000 คนต่อวันก็มี ซึ่งแต่ก่อนเดิมที ก่อนที่จะมีการแพร่ระบาดของโควิดนั้น สนามบินดอนเมืองมีผู้โดยสารเดินทั้งภายในประเทศ-ระหว่างประเทศ สูงถึง 1.1 แสนคนต่อวัน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า งานนี้หากใครที่คิดวางแผนที่จะเดินทางไปขึ้นเครื่องบินที่สนามบินดอนเมือง และเลือกที่อยากจะชิวๆ เดินทางด้วยรถไฟฟ้าสายสีแดง ก็ให้มาลงที่สถานีดอนเมือง จากนั้นให้สังเกตป้ายทางออกหมายเลข 6 (ถนนวิภาวดีรังสิต ขาออก) หลังออกจากประตูอัตโนมัติเรียบร้อยแล้ว ให้เดินตรงไปจะเห็นทางออกหมายเลข 6 ด้านขวามือ

หลังเจอทางออกหมายเลข 6 แล้ว ก็ให้เลี้ยวขวา ก็จะเจอทางแยกระหว่างลงบันไดถนนวิภาวดีรังสิต ขาออก กับบันไดลงทางเชื่อมที่มีทางเลื่อนอยู่ด้านหน้า (ใต้ทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์) ให้ลงบันไดแล้วใช้ทางเลื่อน ก็จะพบเห็นป้าย“ท่าอากาศยานดอนเมือง” ก็เดินเลี้ยวซ้ายอีกครั้ง ผู้โดยสารจะพบประตูทางเชื่อม ที่จะนำท่านทะยานสู่อาคารจอดรถ7 ชั้นทันที
การเดินทางยังไม่จบเพียงเท่านี้ เมื่อถึงอาคารจอดรถ 7 ชั้น ให้เลี้ยวซ้าย โดยจุดสังเกตคือจะผ่านศูนย์อาหารเมจิกฟู้ดพาร์ค ซึ่งเป็นศูนย์อาหารราคาประหยัด ที่ช่วยดับความหิวได้เป็นอย่างดีของท่าอากาศยานดอนเมือง อีกทั้งยังมีร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ร้านกาแฟมวลชน ให้เลือกซื้อหาสินค้า-เครื่องดื่ม ก่อนการเดินทางได้อีกด้วย
โดยหากเดินผ่านสิ่งที่กล้าวมาแล้วนั้น ด้านต่อไปก็จะเข้าสู่อาคารผู้โดยสาร 2 (Terminal 2) ชั้น 2 ซึ่งหากผู้โดยสารจะไปขึ้นเครื่องบินเส้นทางภายในประเทศ ก็เพียงขึ้นลิฟต์ หรือเลือกใช้บันไดเลื่อนขึ้นไปยังชั้น 3 ก็เป็นอันว่าถึงจุดหมาย

เดี๋ยวๆ ยังไม่จบเพียงเท่านี้ ในส่วนคนที่ลงจากเครื่องบินก็สะดวกสบายไม่น้อยหน้าเช่นกัน โดยผู้โดยสารขาเข้า ถ้าจะไปใช้บริการเสพบรรยากาศระบบขนส่งทางราง และไปทดลองนั่งกับรถไฟฟ้าสายสีแดง ก็เพียงเดินขึ้นบันไดเลื่อนไปที่ชั้น 2 เพื่อไปยังทางเชื่อมดังกล่าวแค่นั้นเอง
อ้าว!! งานนี้ใครจะไปทดลองใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีแดง และแวะเช็คอินที่ SKY WALK เดินเล่นต่อเข้ามาที่สนามบินดอนเมืองก็รีบมาได้เลย เพราะตอนนี้ ทางคมนามคมเขาเปิดทดลองให้บริการนั่งฟรี ตั้งแต่ ส.ค.นี้ ไปจนถึง ต.ค.64 จากนั้นก็เตรียมควักตังค์จ่ายค่าโดยสารกันเอง ในข่วงเดือน พ.ย.64
ท้ายที่สุด ผู้อำนวยการ ทดม. ยังกล่าวด้วยว่า ทาง ทดม. จะยังคงมุ่งมั่นพัฒนาระดับการบริการให้ดียิ่งขึ้น เตรียมความพร้อมในการเปิดให้บริการเมื่อสถานการณ์โควิด กลับสู่ภาวะปกติ เพื่อให้ผู้ใช้บริการได้รับความสะดวก ปลอดภัยและสร้างความประทับใจ ทั้งนี้หากท่านพบเห็นปัญหาในการให้บริการ หรือปัญหาอื่นๆ สามารถติดต่อไปยัง AOT Contact Center 1722 หรือศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทดม. โทร 0 2535 1192 ตลอด 24 ชั่วโมง กันเลยนะ!