
- หารือแนวทางความร่วมมือทางวิชาการเกษตรระหว่างกัน
- คู่ค้าอันดับที่ 74 ของไทย
- คู่ค้าสินค้าเกษตรอันดับที่ 56
นางสาวนฤมล สงวนวงศ์ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หารือร่วมกับ พลจัตวา โทมัส โจโรเก งางะ (BRIGADIER THOMAS NJOROGE NG’ANG’A) สังกัดกองทัพเรือสาธารณรัฐเคนยา พร้อมด้วย นายคิปทิเนสส์ ลินด์ซีย์ คิมโวเล (Mr. Kiptiness Lindsay Kimwole) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเคนยาประจำประเทศไทย และคณะผู้แทนจากวิทยาลัยป้องกันประเทศสาธารณรัฐเคนยา (National Defence College Kenya: NDC-K) โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ณ ห้องประชุมกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมรับฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับภารกิจของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรฯ ได้ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์และนโยบายที่สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (ค.ศ. 2023 – 2027) ซึ่งมีนโยบายด้านการเกษตรที่สำคัญ ได้แก่ ยุทธศาสตร์ตลาดนำการผลิต ยุทธศาสตร์เทคโนโลยีเกษตร 4.0 ยุทธศาสตร์ “3S” (Safety – Security – Sustainability) ยุทธศาสตร์การบริหารเชิงรุกแบบบูรณาการกับทุกภาคส่วน และยุทธศาสตร์เกษตรกรรมยั่งยืนตามแนวทางศาสตร์พระราชา นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรฯ ได้ขับเคลื่อนภาคเกษตรด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG ได้แก่ เศรษฐกิจชีวภาพ (Bio Economy) เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) โดยมีเป้าหมายหลัก คือ ปรับเปลี่ยนระบบการเกษตรของประเทศไทยสู่ 3 สูง ได้แก่ ประสิทธิภาพสูง มาตรฐานสูง และ รายได้สูง รวมทั้งหารือแนวทางความร่วมมือทางวิชาการด้านการเกษตรระหว่างกัน
สำหรับภาพรวมการค้าสินค้าเกษตร เคนยาเป็นประเทศคู่ค้าอันดับที่ 74 ของไทย และเป็นประเทศคู่ค้าสินค้าเกษตรอันดับที่ 56 ของไทย โดยระหว่างปี 2563-2565 การค้ารวมระหว่างไทยกับเคนยา มีมูลค่าเฉลี่ยปีละ 6,948 ล้านบาท จำแนกเป็นมูลค่าการส่งออกเฉลี่ยปีละ 6,203 ล้านบาท และมูลค่าการนำเข้าเฉลี่ยปีละ 745 ล้านบาท โดยเป็นมูลค่าการค้าสินค้าเกษตรเฉลี่ยปีละ 1,895 ล้านบาทหรือคิดเป็นร้อยละ 27.27 ของมูลค่าการค้ารวมทุกสินค้า และ มีสัดส่วนการค้าสินค้าเกษตรร้อยละ 0.09 ของมูลค่าการค้าสินค้าเกษตรของไทยกับโลก รวมถึงในปี 2563 มีมูลค่าการค้าสินค้าเกษตร 1,046 ล้านบาท และมีมูลค่าเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในปี 2564 และ 2565 เป็นมูลค่า 1,668 ล้านบาท และ 2,970 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่าการค้าสินค้าเกษตรเฉลี่ยปีละ 1,895 ล้านบาท โดยมีอัตราการค้าเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 68.51 ต่อปี ทั้งนี้ ไทยเป็นฝ่ายได้เปรียบดุลการค้ากับเคนยามาโดยตลอดนอกจากนี้ สินค้าส่งออกของไทยไปยังเคนยาที่สำคัญ อาทิ น้ำตาลที่ได้จากอ้อย น้ำมันปาล์ม ข้าวและปลาที่ปรุงแต่ง รวมทั้ง มีสินค้านำเข้าของไทยไปเคนยาที่สำคัญ อาทิ พืชผักตระกูลถั่วแห้ง กาแฟ เมล็ด ผลและสปอร์










