“ฮุมเมลส์”ซวยสุดๆสกัดเข้าประตูตัวเอง! “อินทรีเหล็ก”พ่ายแชมป์โลก “ฝรั่งเศส” 0-1



การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป “ยูโร 2020” ประจำค่ำคืนวันอังคารที่ 15 มิถุนายน เป็นการลงสนามนัดแรก รอบแบ่งกลุ่ม ของกลุ่มเอฟ ซึ่งเป็นกลุ่มสุดท้าย

คู่ที่สอง เป็นบิ๊กแมตช์ประจำศึกยูโร 2020 คู่แรกอย่างแท้จริง เป็นการเจอกันระหว่าง “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี พบกับ “ตราไก่” ฝรั่งเศส ที่อัลลิอันซ์ อารีน่า นครมิวนิค ประเทศเยอรมนี

สถิติการพบของคู่นี้เจอกันมาทั้งหมด 5 ครั้ง ฝรั่งเศส ไม่เคยปราชัยให้กับ อินทรีเหล็กเลย เริ่มจาก ปี 2015 ฝรั่งเศส ชนะ เยอรมนี 2-0 (กระชับมิตรทีมชาติ) / ปี 2016 เยอรมนี แพ้ ฝรั่งเศส (ยูโร) 0-2 / ปี 2017 เยอรมนี เสมอ ฝรั่งเศส 2-2 (กระชับมิตรทีมชาติ) / ปี 2018 เยอรมนี เสมอ ฝรั่งเศส 0-0 (ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก) / ปี 2018 ฝรั่งเศส ชนะ เยอรมนี 2-1 (ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก)

การจัดทัพลงสนาม 11 คนแรก ฝั่งเจ้าบ้าน โยอาคิม เลิฟ บุนเดสเทรนเนอร์ จัดทีมในระบบ 3-4-2-1 ประกอบด้วย มานูเอล นอยเออร์, มาธิอัส กินเทอร์, มัตส์ ฮุมเมลส์, อันโตนิโอ รูดิเกอร์, โยชัว คิมมิช, โทนี่ โครส, อิลคาย กุนโดกัน, โรบิน โกเซนต์, แซร์จ เกอนาบรี, โธมัส มุลเลอร์ และไค ฮาแวร์ทซ์

ด้านทีมเยือนทัพ “ตราไก่” ของ ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ ยังนำมาทัพมาโดยขุมกำลังชุดแชมป์บอลโลก 2018 ไลน์อัพ 11 คนแรก ในระบบ 4-3-1-2 ประกอบด้วย อูโก้ โยริส, แบ็งฌาแม็ง ปาวาร์, ราฟาแอล วาราน, เพรสแนล คิมเปมเบ้, ลูก้าส์ แอร์กน็องเดซ, เอ็นโกโล่ ก็องเต้,อาเดรียง ราบิโอต์, ปอล ป๊อกบา, อองตวน กรีซมันน์, คีเลียน เอ็มบั๊ปเป้, คาริม เบนเซม่า

เริ่มเกมครึ่งแรก เยอรมนี เป็นฝ่ายครองบอลได้มากกว่าเล็กน้อยแต่ ฝรั่งเศส มีจังหวะโต้กลับมมาในพื้นที่สุดท้ายและได้เสียวหลายครั้งเช่นกัน กระทั่งนาทีที่ 20 ป๊อกบา เปิดบอลจากฝั่งขวาไปให้ แอร์กน็องเดซ กระแทกด้วยซ้ายมาหน้าประตูหวังให้ เอ็มบั๊ปเป้ เข้าชาร์จ แต่ มัตส์ ฮุมเมลส์ ปราการหลังตัวเก๋าของอินทรีเหล็ก สกัดไม่ดีบอลพุ่งเสียบสามเหลี่ยมเข้าประตูตัวเองชนิดจอมหนึบอย่าง นอยเออร์ หมดสิทธิ์ป้องกัน ฝรั่งเศส ออกนำก่อน 1-0

หลังเสียประตู เยอรมนี เน้นการครองบอล แต่การเข้าพื้นที่สุดท้ายของทีมตราไก่ทำได้ยากลำบาก ขณะที่แนวรุกฝรั่งเศสทั้ง กรีซมันน์, เบนเซม่า และเอ็มบั๊ปเป้ คอยรอสวนกลับเร็วและมีลุ้นหวาดเสียวกว่าแต่ทำสกอร์เพิ่มกันไม่ได้ จบครึ่งแรก ฝรั่งเศส ออกนำ 1-0

ช่วงต้นครึ่งหลัง ราบิโอต์ หลุดไปทางซ้าย แต่จังหวะก่อนหน้านั้นเป็นการล้ำหน้า แต่ธงไม่ขึ้น สุดท้ายหลุดไปหลอกซัดเสาแรกบอลชนเสา นาทีที่ 53 เป็นจังหวะลุ้นของเยอรมนี แซร์จ เกอนาบรี ได้วอลเล่ย์หน้าปากประตูบอลกระดอนลงพื้นก่อนจะลอยข้ามคานไปนิดเดียวเยอรมนีชวดโอกาสตีเสมอ

ผ่าน 60 นาที เยอรมนี พับสนามบุกแหลกทุกทิศทุกทาง ขยับคิมมิช จากด้านข้างเข้าไปเล่นตัวในเหมือนตอนเล่นให้ บาเยิร์น มิวนิก แชมป์บุนเดสลีก้าเพื่อหวังสร้างประสิทธิภาพการออกบอลแดนกลางร่วมกับ กุนโดกัน และโทนี่ โครส

นาที 65 เอ็มบั๊ปเป้ ได้บอลจากการตัดไลน์ให้ของ ป๊อกบา แต่เห็นชัดเจนว่าล้ำหน้าไปก่อน แต่ผู้ตัดสินปล่อยเกมไปก่อน และเอ็มบั๊ปเป้ โชว์สเต็ปปั่นไซด์บอลระดับหัวเข้าเข้าหน้าต่างอย่างสุดสวย แต่ไลน์แมนยกธงตามระเบียบ ฝรั่งเศสชวดได้ประตูนำ 2-0

นาที 72 เยอรมนี ปรับแผน ส่ง เลรอย ซาเน่ ลงสนามแทน ไค ฮาแวร์ทซ์ และส่ง ติโม แวร์เนอร์ ลงสนามแทน แซร์จ เกอนาบรี

ท้ายเกมเยอรมนี ยังโหมบุกหนัก ฝรั่งเศส รับแน่น รอสวนกลับเช่นเดิม กระทั่งนาทีที่ 85 ฝรั่งเศส โต้กลับบอลแทงทะลุช่องจากป๊อกบา ให้เอ็มบั๊ปเป้ ลากไปปาดให้ เบนเซม่า แปโล่งๆ เข้าไป แต่วีเออาร์ เช็กแล้วยึดคืนล้ำหน้าตั้งแต่จังหวะป๊อกบา แทงช่องให้ เอ็มปั๊บเป้ สกอร์ยังอยู่ที่ฝรั่งเศสนำ 1-0 เช่นเดิม และรักษาสกอร์นี้กระทั่งจบเกม ทำให้ฝรั่งเศส ชนะ เยอรมนี 1-0 ประเดิมเก็บ 3 แต้มแรกในยูโร 2020

โปรแกรมนัดต่อไป เยอรมนี จะพบกับ โปรตุเกส วันที่ 19 มิถุนายน เวลา 23.00 น. ส่วนฝรั่งเศส จะพบกับ ฮังการี วันที่ 19 มิถุนายน เวลา 20.00 น.