“อาร์เอส กรุ๊ป” พร้อมเขย่าวงการเพลงไทยบอร์ดบริหารเคาะอนุมัติ Spin Off ธุรกิจ RS Music เข้าตลาดหุ้นปีหน้า



  • เดินหน้าปรับโครงสร้างบริษัทเตรียมรุกธุรกิจเพลงเต็มสูบ
  • เผยเงินทุนที่ได้จากการระดมทุนจะนำมาใช้ในการสร้างสรรค์ผลงานใหม่
  • ลุยขยายฐานรายได้จัดเก็บลิขสิทธิ์ จากช่องทางดิจิทัลทั้งแพลตฟอร์มสตรีมมิง-โซเชียลมีเดีย

นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท อาร์เอสจำกัด(มหาชน)เปิดเผยว่าหลังจากที่อาร์เอสกรุ๊ปได้ประกาศแผนการเดินหน้าลุยธุรกิจเพลงอีกครั้งเมื่อต้นปีที่ผ่านมาล่าสุดบอร์ดบริหารได้อนุมัติให้ดำเนินตามแผนการขยายการเติบโตทางธุรกิจอย่างต่อเนื่องโดยเร่งSpin Offธุรกิจเพลงเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นธุรกิจแรกในเครือภายในปี2567เพื่อระดมเงินทุนในการลงทุนในธุรกิจเพลงอย่างเต็มที่อีกครั้งด้วยเล็งเห็นว่าอุตสาหกรรมเพลงมีโอกาสการสร้างรายได้หลากหลายมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากช่องทางดิจิทัล

“เงินทุนนี้จะนำไปใช้ในการสร้างสรรค์ผลงานเพลงใหม่ๆรวมถึงการจับมือร่วมกับพันธมิตรในรูปแบบต่างๆเช่นการลงทุนผ่านM&A (Mergers and Acquisitions)หรือJV (Joint Venture)ที่เราได้เริ่มต้นไปแล้วกับแกรมมี่พาร์ทเนอร์ที่ร่วมขับเคลื่อนวงการเพลงไทยมาอย่างยาวนานนอกจากนี้เราได้เจรจาและกำลังอยู่ในระหว่างการสรุปดีลกับพาร์ทเนอร์ต่างประเทศคาดว่าจะสามารถประกาศอย่างเป็นทางการได้ภายในไตรมาสที่2ของปีนี้นายสุรชัยกล่าว

นอกจากนี้ยังวางแผนนำทีมงานที่มีศักยภาพเข้ามาเสริมทัพการสร้างปรากฏการณ์ทางดนตรีใหม่ๆทั้งหมดนี้เป็นที่มาของความตั้งใจของเราในการSpin Offอาร์เอสมิวสิค เข้าตลาดฯมุ่งสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการสร้างสรรค์ผลงานและประสบการณ์ทางดนตรีแปลกใหม่และหลากหลายตอบโจทย์ความสนใจของผู้บริโภคพร้อมทั้งยังอำนวยความสะดวกให้ผู้บริโภคจากทั่วโลกสามารถเข้าถึงคอนเทนต์ด้านดนตรีของเราได้อย่างหลากหลายยิ่งขึ้นผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ

ทั้งนี้ ปัจจุบันรายได้ของอาร์เอสมิวสิคมีที่มาจาก5แหล่งหลักได้แก่

1. Digital Monetization เป็นรายได้จากผลงานเพลงทั้งจากศิลปินรุ่นใหม่และศิลปินระดับตำนานของอาร์เอส จากช่องทางออนไลน์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโซเชียลมีเดียอย่าง YouTube, Facebook, Instagram, TikTok หรือแพลตฟอร์มสตรีมมิง ได้แก่ Spotify, Apple Music, JOOX และอื่นๆ

2. Copyright Revenue เป็นรายได้จากการจัดเก็บและต่อยอดทรัพย์สินทางภูมิปัญญา (IP) ลิขสิทธิ์เพลงอื่นๆ ของอาร์เอส มิวสิค

3. Marketing Projects & Campaigns เป็นรายได้จากโปรเจคหรือแคมเปญการตลาดต่างๆ เช่น การพัฒนาผลงานเพลงร่วมกับพันธมิตรต่างๆ

4. Showbiz & Concerts เป็นรายได้จากการจัดกิจกรรม อีเวนท์ เฟสติวัล และคอนเสิร์ต

5. Talent Management เป็นรายได้จากการบริหารและดูแลศิลปิน

เราอยู่ในระหว่างการปรับโครงสร้างอาร์เอสมิวสิคซึ่งจะช่วยเสริมการเติบโตของธุรกิจเพลงให้ครบวงจรและสามารถสร้างรายได้จากหลากหลายช่องทางยิ่งขึ้นเพื่อสนับสนุนให้ธุรกิจอาร์เอสมิวสิคมีความพร้อมในการรุกอุตสาหกรรมเพลงอย่างเต็มที่สำหรับปีนี้ด้วยโมเดลธุรกิจใหม่ที่ชัดเจนโปรเจคไฮไลท์ต่างๆตลอดทั้งปีและการทำกลยุทธ์ที่หลากหลายเพื่อสร้างรายได้ไม่ว่าจะเป็นพาร์ทเนอร์ทั้งในและต่างประเทศที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งทางธุรกิจโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่องทางดิจิทัลต่างๆรวมถึงความทุ่มเทในการสร้างสรรค์ผลงานเพลงใหม่ๆจากทั้งศิลปินระดับตำนานและศิลปินรุ่นใหม่ของอาร์เอสในปีนี้และมีการขยายฐานรายได้การจัดเก็บลิขสิทธิ์จากการนำเพลงไปเผยแพร่ในแพลตฟอร์มสตรีมมิงต่างๆเราจึงมั่นใจว่าจะสามารถสร้างการเติบโตทางธุรกิจของอาร์เอสมิวสิคได้อย่างต่อเนื่องมุ่งสู่เป้ารายได้700ล้านบาทภายในสิ้นปีนี้พร้อมเริ่มต้นความร่วมมือใหม่ๆที่จะเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันSoft Powerของไทยนายสุรชัยกล่าว

นอกจากนี้เตรียมพบกับสีสันใหม่ของวงการเพลงไทยจาก โปรเจคRS Homecomingของอาร์เอสมิวสิคที่กลับมาด้วยการดึงศิลปินดังในยุค90sและY2Kมาสร้างสรรค์ผลงานเพลงใหม่ไม่ว่าจะเป็นแดนวรเวช,บีมกวี,เขื่อนภัทรดนัย,ดังพันกร,เฟย์ฟางแก้ว, Girly Berry,จ๊ะนงผณีและโดมปกรณ์ลัมซึ่งจะออกมาในสไตล์ไหนต้องรอติดตามในเร็วๆนี้ขณะที่โปรเจคRS Newcomersก็กำลังเฟ้นหาศิลปินรุ่นใหม่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่จะมาสร้างปรากฏการณ์ใหม่และเขย่าวงการT-popของไทยให้คึกคักยิ่งขึ้นอีกด้วย